tag:blogger.com,1999:blog-38241106865003365302024-03-21T12:46:24.863+07:00เพื่อนกล้วยชวนอ่านวิ่ง อ่าน ดู เพราะเรารู้ว่าโลกกว้างยิ่งนักกล้วยไข่ เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/17065376333172617761noreply@blogger.comBlogger10125tag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-70336613149032171972013-05-22T12:33:00.000+07:002013-05-22T15:44:52.734+07:00ลาก่อนนางฟ้าอัลบั้มรูปในวัยเด็กของฉัน เต็มไปด้วยรูปวันไหว้ครูในแต่ละปี<br /><br />ที่ฉันจะถูกคัดเลือกให้เป็นคนถือพาน<br /><br />ปีแล้ว ปีเล่า ปีแล้ว ปีเล่า<br /><br /><br /><br />นักเรียนเรียนดี เด็กกิจกรรม หัวหน้าชั้น<br /><br />เส้นทางอันน่าชื่นชมของเด็กประถมคนหนึ่งถูกบรรจุรวมอยู่ในอัลบั้มภาพเหล่านั้น<br /><br />แต่ความทรงจำที่ตัวฉันเองจำได้แม่นๆเลยน่ะเหรอ ..<br /><br /><br /><br />ฉันจำหน้าตา ชื่อจริง และนามสกุล ของเพื่อนผู้หญิงที่ฉันเคยจิกทึ้งผม และตีกันสมัย ป.3ได้<br /><br />แม้จะลืมหน้าตาเพื่อนสนิทสมัยประถมไปเกือบหมดแล้วก็ตาม<br /><br />ชื่อของเธอคือ พ.ล.ล ก.ค.<br /><br /><br /><br />ฉันจำได้ว่าสิ่งที่ใกล้เคียงกับความกล้าหาญมากที่สุดที่เคยทำตอนเด็กๆ<br /> คือการโมโหจนหน้ามืด และไล่กวดเพื่อนผู้ชาย ที่เป็นหัวโจกจอมเกเรประจำห้อง<br /><br />เพราะมันมาแกล้งเพื่อนรักของฉัน ความตกใจหรืออะไรไม่รู้ทำให้มันวิ่งหนี และฉันก็วิ่งตาม<br /><br />พอมันนึกได้ จะหันกลับมาไล่กวดฉันบ้าง ฉันก็วิ่งโร่ตีหน้าซื่อว่าถูกรังแกไปฟ้องครู<br /><br />หึ..สม !<br /><br /><br /><br /><div>
นั่นเป็นที่มาที่ตอนเด็กๆฉันมีฉายาว่า ‘แม่เสือ’<div>
<br /><br /><br />ฉันจำได้ว่าเมื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอน ป. 5<br /><br />ความมั่นใจอันเหลือล้นของตัวเองถูกทลายลง ด้วยการเขียนตามคำบอกผิดทั้งหมด<br /><br />เพราะ เขียนประโยคที่ควรจะเป็น It is ว่า Is it<br /><br />(มีนิสัยช่างถามมาตั้งแต่เด็กกันเลยจริงๆ ^^")<br /><br /><br /></div>
<div>
จำได้ด้วยว่าการเป็นเหาทำให้เราคันหัวแค่ไหน<br /><br />ความรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยงเวลาที่หวีเสนียดกวาดเอาไข่เหาร่วงพรูลงมาจากผมของเราเป็นยังไง<br /><br />แต่ถึงอย่างนั้น การได้บี้ไข่เหาก็เป็นอะไรที่มันสะใจดี<br /><br /><br /></div>
<div>
ฉันจำถุงเท้าที่มีรอยขาดตรงนิ้วหัวแม่โป้งได้ !<br /><br /><br /></div>
<div>
มีเพียงครั้งเดียวที่ฉันร้องโยเยไม่อยากไปโรงเรียน<br /><br />มันคือตอนอนุบาลที่ฉันเขียนเลขแปด ที่เป็นเลขอารบิกไม่สวย<br /><br />ฉันไม่สามารถลากเส้นสายโค้งวนต่อเนื่องมาบรรจบกันได้<br /><br />คับข้องใจกับการเขียนวงกลมสองวงที่ทาบกันไม่สนิท<br /><br />ทำยังไงๆ ก็ไม่สามารถเขียนให้ดีอย่างที่พอใจเลย<br /><br />ถึงแม้คุณตาที่ตอนนั้นเป็นคนสอนการบ้านจะบอกว่ามันดีแล้ว<br /><br />แต่ฉันรู้แน่แก่ใจว่ามันยังไม่ดีพอ !<br /><br /><br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
การที่มีอะไรสักอย่างแปลกแยกแตกต่างไปจากเพื่อน<br /><br />อะไรสักอย่างที่เรารู้ว่าถ้าใครรู้เข้าต้องล้อ หรือมองเราเป็นตัวประหลาดแน่ๆ<br /><br />เป็นความลับอันหนักอึ้ง และยิ่งใหญ่มากสำหรับเด็กในวัยนั้น<br /><br />ตอน ป.6 ฉันต้องแบกความลับประเภทที่ว่า และรู้สึกว่าถูกโลกใบนี้ทรยศหักหลัง<br /><br />มันไม่ใช่คำที่ฉันใช้อธิบายกับตัวเองในตอนนั้นหรอก<br /><br />แต่ก็ใช่..มันคือสิ่งที่ฉันรู้สึกจริงๆในตอนนั้น<br /><br /><br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
ถึงแม้ว่ามันแทบจะไม่มีความหมายอะไรเลยในตอนนี้ก็ตาม ..<br /><br />หรืออาจจะมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง ในเรื่องที่มันทำให้ฉันรู้สึกตัวว่าฉันต้องโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว<br /><br />มีบางอย่างที่ฉันต้องดูแล และรับผิดชอบในฐานะผู้ใหญ่นับจากวันนั้น<br /><br /><br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
แล้วฉันก็โตเป็นผู้ใหญ่ ด้วยการบอกตัวเองแบบนั้น<br /><br />พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเข้าใจในสิ่งที่ทุกคนพูดว่าแล้วฉันจะ 'เข้าใจในสักวัน'<br /><br />พยายามเพื่อพบว่า ถึงแม้ไม่เข้าใจ แต่เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด<br /><br />นอกจากจะเชิดหน้าเข้าไว้ ..และยอมรับมัน<br /><br /><br /></div>
<div>
แล้วความลับหนักอึ้งในแบบเด็กๆก็หายวับไป<br /><br />วัยเด็กของฉันเองก็เช่นกัน :)<br /><br /><br /></div>
<div>
<br /></div>
<div>
ลาก่อนนางฟ้า ..<br /><div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgu5xQmC9hl5YPNkVAJwHZ7lI4r-qGd3UVl6jKq7unrAECTk1VFnA76VuOTBJWh7Kt1eCMYfId87fTzhcJUsQaXIorCmp8jkAWVcF_vwWAJm41l3EGVsmyUrr11ISXZm5tjk6UzEhAuf_M/s1600/979580_187423904748605_741226362_n.jpg"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgu5xQmC9hl5YPNkVAJwHZ7lI4r-qGd3UVl6jKq7unrAECTk1VFnA76VuOTBJWh7Kt1eCMYfId87fTzhcJUsQaXIorCmp8jkAWVcF_vwWAJm41l3EGVsmyUrr11ISXZm5tjk6UzEhAuf_M/s320/979580_187423904748605_741226362_n.jpg" /></a></div>
<br /><br /><br />จริงๆแล้วฉันเริ่มต้นด้วยความพยายามจะพูดถึงหนังสือเล่มนี้<br /><br />แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างในหัวใจก็พรั่งพรูสู่ปลายนิ้ว<br /><br />และทำให้ฉันต้องยอมจำนนต่อสิ่งนั้น<br /><br />สิ่งที่หนังสือดีๆเล่มหนึ่งสามารถทำกับเราได้<br /><br />อย่างเช่นการพาเราเข้าไปสำรวจ และเยียวยาบาดแผลในหัวใจ<br /><br />ที่เราหลงคิดว่ามันหายสนิทไปแล้วตั้งนาน<br /><br /><br /><br />โลกของผู้ใหญ่ช่างหยาบกระด้างเหลือเกิน เมื่อฉันได้ตระหนักอีกครั้งว่า<br /><br />หัวใจดวงเล็กๆของเด็กๆซึมซับอะไรเอาไว้ได้บ้าง<br /><br />ความรัก ความสุข ความอ่อนโยน ความหวัง ความฝัน มิตรภาพ<br /><br />ความเศร้า ความอับอาย ความน้อยเนื้อต่ำใจ ความรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการ ความผิดหวัง<br /><br /><br /><br />และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น..เพราะเรารู้จักที่จะรัก<br /><br /><br /><br />หลายครั้งที่น่าจะเจ็บมากกว่านี้ แต่ว่าอะไรเล่าที่ทำให้เขาเสียใจถึงเพียงนี้<br /><br />น้ำตาที่ไหลลงโดยปราศจากเสียงสะอื้นข้างหน้าต่างวันนั้น พลอยทำให้หัวใจข้าพเจ้าเจ็บปวดไปด้วย<br /><br />ใช่ ..ไม่ใช่การถูกตีหรอกที่ทำให้ปิ่นโตน้ำตาไหล แต่เป็นเพราะความรักต่างหาก<br /><br /><br /><br />วัยเด็กของฉันผ่านไปแล้ว นางฟ้าของฉันก็จากไปแล้วเช่นกัน<br /><br />ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ได้<br /><br />ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังหวังว่าผู้ใหญ่ที่เคยเป็นเด็กมาก่อนทุกคน จะสามารถจดจำนางฟ้าของตัวเอง<br /><br />และคอยปกป้องเสียงหัวเราะของเด็กๆเอาไว้ เพื่อให้ทิงเกอร์เบลของพวกเขา<br /><br />ยังคงมีปีกที่แข็งแรง สามารถโบยบิน โบยบิน โบยบิน ตราบเท่าที่จะยังเป็นไปได้<br /><br /><br /><br />นอกจากจะพาเราไปให้ใกล้ชิดหัวใจตัวเองอย่างที่สุดแล้ว<br /><br /></div>
<div>
หนังสือดีๆเล่มหนึ่งยังอาจทำให้เราได้ซึมซับรับรู้ว่าหัวใจดวงอื่นๆมีความรู้สึกอย่างไร<br /> ทำให้เราเกิดความรัก ความปรารถนาดีต่อหัวใจดวงอื่นๆ<br /> และทำให้เราได้ค้นพบความสุขสงบอันเรียบง่าย<br /><br />ทำให้เราแยกไม่ออกว่าน้ำตาที่ไหลออกมานั้น เกิดจากความตื้นตัน ความสุข หรือความเศร้าใจ<br /><br /><br />นั่นแหละ สิ่งที่หนังสือดีๆสักเล่มสามารถทำกับเรา :)<br /><br /><br /> <br /><br /><br /> <br /><br /><br /> </div>
</div>
กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-86618648888047422082013-05-13T15:00:00.002+07:002013-05-13T15:14:11.415+07:00Fifty Shades of Grey Fifty shades of Grey<br />
<br />
<br />
หนังสือเล่มแรกของนิยายไตรภาค Fifty shades<br />
อันประกอบไปด้วย Fifty shades of Grey<br />
Fifty shades Darker<br />
และ Fifty shades of Freed<br />
เขียนโดย E L James นักเขียนผู้โด่งดังในชั่วข้ามคืน<br />
ทันทีที่นิยายเล่มแรกของเธอ (และเล่มแรกของไตรภาคนี้) Fifty shades of Grey<br />
เปิดตัวออกมาในปี 2011<br />
<br />
<br />
และแม้ข้าพเจ้าจะแว่วข่าวถึงความโด่งดังของนิยายเรื่องนี้<br />
แต่ก็ตามเคย..ด้วยความเป็นนักอ่าน นักดูที่หลีกเลี่ยงสปอยล์เต็มที่<br />
<span style="color: red;">(แต่แน่นอนว่ายามรีวิวหนังสือ ข้าพเจ้าก็จะสปอยล์ผู้อ่านเต็มที่ ^^" <br />ดังนั้นหากเป็นนักอ่านประเภทเดียวกัน โปรดหลีกเลี่ยงรีวิวนี้เถิดจะเกิดผล)</span><br />
<br />
จึงไม่รู้จริงๆว่าเนื้อหาสาระของมันว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับอะไร<br />
เรื่องจึงเริ่มต้นง่ายๆแค่เห็นมีฉบับแปลเป็นไทยแล้ว จำชื่อได้ ก็หยิบไปจ่ายตังค์<br />
แปลกใจอยู่เหมือนกันแหละที่หน้าปกเขียนระบุไว้ว่า "21+"<br />
สำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป<br />
เกือบแนบบัตรประชาชนให้น้องพนักงานขายแล้วด้วย กลัวเค้าไม่กล้าขายให้ <br />
(ช่างกล้า ...>.<)<br />
<br />
<br />
น้องพนักงานขายชวนคุยว่า ไม่รับเป็น Box Set ไปเลยล่ะ<br />
ข้าพเจ้าจึงเพิ่งรู้ว่า หนังสือเล่มนี้มันเป็น Trilogy (มีเรื่องให้เสียเงินยาวอีกแล้วครับท่าน >.<)<br />
แล้วน้องก็ยังชวนคุยโน่นนี่ ว่ารู้เรื่องราวมาบ้างแล้วใช่ไหม ถ้าอ่านไม่ครบก็เหมือนดูหนังไม่รู้ตอนจบนะ<br />
บลาๆๆ ข้าพเจ้าก็ได้แต่ยิ้ม อมภูมิที่ไม่ค่อยจะมี พลางนึกสงสัยเต็มที่ว่ามันเกี่ยวกับเรืองอะไรว้า<br />
ปกติซื้อหนังสือไม่เคยเจอพนักงานขายชวนคุยอ่ะ ^^<br />
<br />
<br />
ได้เล่มแรกกลับมาเล่มเดียวก่อน เปิดหนังสือ <br />
และเริ่มต้นที่คำนำ (ซึ่งในเล่มนี้คือบทบรรณาธิการ)ก่อน<br />
ตามแบบแผนการอ่านหนังสือของข้าพเจ้า เพื่อที่จะพบว่า บทบรรณาธิการทั้งหกหน้า<br />
ถูกใช้ไปเพื่อเปิดใจคนอ่านให้เห็นว่าเชิงสังวาสที่จะได้อ่านต่อไปในหนังสือเล่มนี้<br />
ก็เฉกเช่นเดียวกับที่ปรากฏในวรรณกรรมทุกยุคทุกสมัย<br />
แตกต่างก็แต่ค่านิยม ความเชื่อของสังคม วัฒนธรรมประเพณีที่เปลี่ยนไป<br />
แม้กระทั่งทัศนคติของเรื่องนี้ระหว่างสังคมไทย กับสังคมตะวันตกก็แตกต่างกัน<br />
<br />
<br />
เฮ้ ! เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าเป็นเพียงแค่นั้นจริงๆ เหตุไฉนต้องใช้บทบรรณาธิการถึงหกหน้าเชียวล่ะ ?<br />
<br />
<br />
ข้อสงสัยนี้คลี่คลายไปทันทีที่อ่านหนังสือไปได้สักครึ่งเล่ม <br />
โดยความเห็นส่วนตัวแล้วคิดว่า ฉากอีโรติกที่ผิดแผกไปจากบรรทัดฐานที่ปกติในหนังสือนั้น<br />
เป็นเพียงแค่การเปิดเผยบางแง่มุมของโลกที่ถูกซ่อนไว้ในมุมมืด <br />
แต่เราทุกคนรู้ว่ามันมีอยู่จริง ให้นักอ่านได้อ่าน<br />
และในฐานะนักอ่าน หากไม่พยายามตีโพยตีพายจนเกินงาม<br />
มันก็คล้ายๆกับการที่ เราไม่เคยไปเที่ยวเมืองจีน แต่รู้ว่ามีเมืองจีนอยู่ตรงไหนของแผนที่โลก<br />
และรู้จักเมืองจีนได้ผ่านตัวหนังสือ ส่วนจะอยากไปเมืองจีนให้เห็นสิ่งที่ได้รู้กับตาหรือไม่นั้น<br />
ก็ว่ากันไปตามรสนิยมของแต่ละบุคคลนั่นแล<br />
..ก็แค่นั้น<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjAazr6mcUEMjJTHZi45a5i3SrdknRJm7KA9hFCuaS8AMs_Xd4OjRGZXyyyoYx_RlmtD9J-H-icaNzo2Cefh2nmj5Kuu_iYEDE2-J7cn-X_t-hYDTeP6RwKzGdGbucY1Emjhhfa6sOefpg/s1600/Grey.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" mwa="true" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjAazr6mcUEMjJTHZi45a5i3SrdknRJm7KA9hFCuaS8AMs_Xd4OjRGZXyyyoYx_RlmtD9J-H-icaNzo2Cefh2nmj5Kuu_iYEDE2-J7cn-X_t-hYDTeP6RwKzGdGbucY1Emjhhfa6sOefpg/s320/Grey.jpg" width="195" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br />
แต่ที่ทำให้ขัดใจจริงๆ ไม่ใช่ "การมีอยู่" แต่เป็น "มีเยอะจนเกินพอดี" ของฉากดังว่าต่างหาก<br />
จริงๆแล้วในบทแรกๆของหนังสือ สามารถเปิดตัว "คริสเตียน เกรย์" พระเอกของเรื่องได้อย่างน่าสนใจมาก<br />
ด้วยคาแรคเตอร์ ของมหาเศรษฐีหนุ่ม (โคตร)หล่อ อารมณ์ซับซ้อน มีสเน่ห์และลึกลับ<br />
แม้แต่ตอนที่เฉลยแล้วว่า เขาเป็นพวกที่มีรสนิยมทางเพศผิดแผกไปจากบรรทัดฐานปกติก็ตาม<br />
แต่การปรากฏอยู่ของมุมที่มืดที่สุดของสีเทา <br />
เพื่อสะท้อนถึงปมปัญหาจากภูมิหลังในอดีตที่ส่งผลกระทบถึงปัจจุบันนั้น<br />
ก็ดูจะเพิ่มความหนักแน่นจริงจัง น่าค้นหาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป<br />
และชวนให้สงสัยว่า เขาจะกลับมาสู่ส่วนที่สว่างของสีเทาจางๆ ได้ไหม<br />
<br />
<br />
น่าค้นหาและชวนให้สงสัย จนกระทั่งอ่านผ่านไปอีกครึ่งเล่มหลัง <br />
ก็ยังพบว่า "ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีก นอกจากฉากดังว่า" ..ไปจนจบเล่มนั่นแหละ<br />
<br />
<br />
เฮ้อ..<br />
ขอไว้อาลัยให้หนังสือ และตัวเองที่อ่านไปจนจบเป็นเวลาหนึ่งนาที<br />
นี่ถ้าหากอยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ ฉันก็คงต้องเสียเงินซื้อเล่มสองสินะ T^T<br />
<br />
<br />
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ใช่ว่าหนังสือเล่มนี้จะไม่มีดี<br />
หากตัดความเยิ่นเย้อในส่วนที่ไม่จำเป็นต้อง เย้อออออออ ออกไป<br />
(หรือจำเป็นก็ไม่รู้ เพราะคิดว่าส่วนหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก คงเพราะมีจุดขายที่แตกต่างออกไป)<br />
ข้าพเจ้ารู้สึกชอบตัวละคร "คริสเตียน เกรย์" เป็นพิเศษ<br />
จัดเป็นตัวละครที่มีสเน่ห์ แบบที่ไม่ถึงกับน่าหลงใหลคลั่งไคล้ <br />
(อย่างที่นางเอกของเรื่องรู้สึกได้อย่างเวอร์มาก)<br />
แต่น่าสนใจค้นหา<br />
<br />
<br />
ในห้าสิบเฉดของสีเทา มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ภาพตัวเราเองที่สะท้อนให้เห็นในกระจกเงา<br />
กับภาพที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกนั้นแตกต่างกันอย่างสุดขอบคนละด้าน<br />
และ คริสเตียน เกรย์ ก็มีชีวิตที่น่าเศร้าแบบนั้น<br />
<br />
<br />
มันทำให้คนอ่านอย่างเราต้องมาทบทวนตัวเองว่า เราเคย "ตัดสิน"ใครว่าเป็นอย่างไรไปแล้วบ้าง<br />
สิ่งที่เราเห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็น และในสิ่งที่เขาเป็น ก็ยังมีเหตุผล เรื่องราว ที่มาที่ไปอีกมากมาย<br />
ที่ถ้าหากเราไม่เคยพยายามจะเข้าใจ เราก็อาจจะเห็นและตัดสินกันง่ายๆ ว่า<br />
"อี๋ วิตถาร"<br />
<br />
<br />
บางสิ่งบางอย่าง บางวิถีทางในโลกนี้มันมีอยู่ และเป็นเช่นนั้น<br />
ไม่ว่าเราจะชอบ หรือไม่ชอบ เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เข้าใจ หรือไม่เข้าใจก็ตาม<br />
มันอาจจะเป็นส่วนสีเทาที่เข้มที่สุดในชีวิตของคนคนหนึ่ง<br />
แต่ก็ใช่ว่านั่นคือสิ่งที่แสดงตัวตนทั้งหมดของคนคนนั้น<br />
เราทุกคนล้วนมีหลากหลายเฉดสีเทาที่แตกต่างกัน<br />
<br />
<br />
และก็เพราะมีแสงสว่างมิใช่หรือที่ทำให้เกิดเงา :)<br />
<br />
<br />
<br />กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-52694666207116076072013-05-03T08:15:00.002+07:002013-05-13T14:55:33.885+07:00A Game of Thornes..เกมล่าบัลลังก์<br />
<br />
A Game of Thornes หรือเกมล่าบัลลังก์<br />
เป็นภาคปฐมบทของ มหาศึกชิงบัลลังก์ - A Song of Ice and Fire<br />
เขียนโดย จอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน <br />
โดยมหากาพย์ชุดนี้ ประกอบไปด้วยหนังสือทั้งหมด 7 ภาค คือ<br />
<br />
<br />
<br />
A Game of Thrones (1996)<br />
A Clash of Kings (1999)<br />
A Storm of Swords (2000)<br />
A Feast for Crows (2005)<br />
A Dance with Dragons (2011)<br />
<br />
<br />
<br />
และสองเล่มสุดท้ายคือ<br />
The Winds of Winter และ<br />
A Dream of Spring<br />
นั้นยังเขียนไม่เสร็จ และยังไม่มีกำหนดออกจำหน่าย<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
จำได้ว่าได้ยินชื่อเสียงของมหากาพย์เรื่องนี้มาตั้งแต่หลายปีก่อน<br />
ตอนที่ซีรีส์ตอนแรก A Game of Thorne เริ่มออกฉาย<br />
เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใดพี่เอยในตอนนั้น ยังไม่ทำให้รู้สึกนึกอยากดูขึ้นมาสักเท่าไหร่<br />
อาจเป็นเพราะชะตาฟ้าลิขิตให้ต้องเริ่มต้นจากการอ่านหนังสือก่อนก็ได้<br />
(ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องขอบคุณฟ้า :))<br />
<br />
<br />
<br />
จนกระทั่งปฐมบทภาคแรกถูกแปลออกมาเป็นภาษาไทย<br />
และน้องชายผู้คะยั้นคะยอให้ดูซีรี่ส์มาตั้งแต่ต้น ได้ส่งสาส์นมาถึง<br />
ว่าหากไม่ยอมดู ก็จงไปหาอ่านซะ อ่านเสร็จแล้วจะขอยืมอ่านต่อ<br />
เหวออออ..อ่านเสร็จแล้วจะขอยืมอ่านต่อ..น้องชายผู้ไม่ชอบอ่านหนังสือของข้าพเจ้านี่นะ<br />
<br />
<br />
<br />
ไม่ได้การแล้ว เราต้องพลาดอะไรบางอย่างที่สำคัญไปแน่ๆ<br />
ในเมื่อน้องชายผู้ดูซีรี่ส์แล้ว และไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือ <br />
(เค้าบอกให้แก้ข่าวใหม่น่ะ ^^) ถึงขนาดบอกว่าอยากจะอ่าน<br />
ในเย็นวันนั้นเลย ข้าพเจ้าจึงไปถอย A Game of Thornes จากร้านหนังสือ<br />
ทั้งเล่ม 1.1 และ 1.2 ซึ่งมีความหนารวมกันประมาณหนึ่งพันหน้า<br />
ใช้เวลาทำความเข้าใจอยู่ 4 วันทำการ (หมายถึงต้องทำงานไปด้วย ^^)<br />
ก็พบว่า เสียงลือเสียงเล่าอ้างนั้น ล้วนมีมูลเหตุและที่มา<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcan36k8mIuDuU8tIHMRhFE5eZ0ZmgdzHENOx3i7RHNmiiXe5WqKDNvSVQ8rzI3AUXtsOjz2MvSL16d3fyFce_nvM67M4Pj8XbAEMuTGcF4Xak89GTJpIbQ8viUVZZvZ9mCfVhNMfFsfg/s1600/24160cac0.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcan36k8mIuDuU8tIHMRhFE5eZ0ZmgdzHENOx3i7RHNmiiXe5WqKDNvSVQ8rzI3AUXtsOjz2MvSL16d3fyFce_nvM67M4Pj8XbAEMuTGcF4Xak89GTJpIbQ8viUVZZvZ9mCfVhNMfFsfg/s320/24160cac0.jpg" width="219" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
A Game of Thornes ใช้วิธีการดำเนินเรื่องผ่านการเล่าเรื่อง<br />
ของตัวละครที่หลากหลาย ในแง่มุมที่แตกต่าง<br />
หนึ่งบท ต่อหนึ่งตัวละคร จะค่อยๆนำพาเนื้อเรื่องให้ดำเนินไปข้างหน้า<br />
พร้อมกับให้เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครตัวนั้นๆ สลับกันไปในแต่ละบท<br />
เป็นวิธีที่ช่วยสร้างตัวตนที่ชัดเจนให้กับตัวละครหลัก <br />
(ที่เอาแค่หลักๆก็ยังนับว่ามากจนต้องค่อยๆจดจำกันไป)<br />
สร้างความผูกพันระหว่างตัวละครกับคนอ่าน เพราะการมองเรื่องราวผ่านสายตาของตัวละครเหล่านั้น<br />
ทำให้เรารู้สึก ในสิ่งที่เขารู้สึก เข้าใจถึงเหตุผลของการกระทำในเบื้องลึก <br />
ที่นำไปสู่การตัดสินใจทำในสิ่งต่างๆ ซึ่งบางครั้ง ไม่อาจนับได้ว่ามีเกียรติ หรือขาวสะอาด <br />
แต่แม้ในขณะที่ในใจเราภาวนาให้ตัวละคร (ตัวโปรด)เลือกทำอีกอย่าง<br />
หากลองย้อนกลับมาถามตัวเราเองด้วยความซื่อสัตย์ และจริงจัง <br />
คำตอบที่ได้ก็อาจจะยังไม่ใช่อย่างที่เราภาวนาไว้เลย<br />
<br />
<br />
<br />
พวกเขาจึงผิดพลาด จึงเห็นแก่ตัว จึงเต็มไปด้วยเลือดเนื้อและชีวิตอยู่ในเกมล่าบัลลังก์<br />
เกมที่กติกามีแค่ "You win or You die" ดังนั้นในเกมชิงอำนาจนี้ <br />
ถูกผิดจึงตัดสินที่เราจะมองในมุมของใคร<br />
ไม่มีโค-ตรพระเอก หรือโค-ตรผู้ร้าย ตัวละครทุกตัวล้วนมีมิติเชิงลึกที่ซับซ้อน น่าสนใจ<br />
และถูกสถานการณ์รอบตัวอันโหดร้าย ดึงด้านมืดของตัวเองออกมา<br />
เรื่องราวจึงคาดเดาไม่ได้ และพลิกผันอยู่ตลอดเวลา <br />
เพราะเป็นไปตามการตัดสินใจของตัวละครหลากหลายตัวที่ส่งผลกระทบต่อกัน<br />
<br />
<br />
<br />
ในส่วนของความเป็นแฟนตาซี ภาคแรกนี้ยังไม่ค่อยเห็นโดดเด่นนัก<br />
เรื่องราวเหนือธรรมชาติต่างๆปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องในลักษณะของตำนานเล่าขานเท่านั้น<br />
มีเพียงช่วงท้ายเรื่องที่ทิ้งปมประเภทที่ทำให้เราต้องอ้าปากค้าง ว่าแล้วมันจะเป็นยังไงต่อไป<br />
โดยหากในภาคต่อๆจากนี้ไป สามารถผสมผสานความเป็นดราม่าที่ทำได้ดีอยู่แล้ว <br />
กับความเป็นแฟนตาซีที่สนุกสนานตื่นเต้นน่าสนใจได้อย่างกลมกล่อมลงตัวแล้วล่ะก็<br />
ถึงแม้จะมีเจ็ดเล่ม หรือเจ็ดพันหน้า มหากาพย์ชุดนี้ก็ยังควรค่าแก่การติดตามในความเห็นของข้าพเจ้า <br />
<br />
<br />
<br />
โศกนาฏกรรม การทรยศหักหลัง การช่วงชิงอำนาจ ผลประโยชน์ต่างๆ สงคราม<br />
ชัยชนะ ความพ่ายแพ้ ความหวาดหวั่นพรั่นพรึง <br />
ความเดือดร้อนของประชาชนผู้เป็นเหยื่ออย่างแท้จริง<br />
..ชั่วขณะหนึ่ง เรื่องราวในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เรื่องราวในหนังสือ และในชีวิตจริง ราวกับเป็นเรื่องเดียวกันที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหน้าประวัติศาสตร์<br />
<br />
<br />
แต่มนุษย์ก็ไม่เคยเรียนรู้และจดจำ ..<br />
<br />
<br />
ครั้งแล้วครั้งเล่าเราจึงต้องเผชิญกับความมืดมิดและเหน็บหนาวอันยาวนาน<br />
และ..ฤดูหนาวกำลังจะมา <br />
<br />
<br />
<br />
<br />กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-91561684758620048432013-04-24T17:05:00.000+07:002013-04-24T17:05:25.888+07:00กาแฟรักอุ่นหัวใจ<br />
<br />
<br />
ถ้าเปรียบตัวเองเป็นเครื่องดื่มอะไรสักอย่างหนึ่ง<br />คุณคิดว่าตัวเองเป็นอะไรหรือคะ ?<br />
<br />
<br />
ไม่รู้ว่าเพราะเป็นคนช่างสังเกต เพราะทำงานในร้านกาแฟ<br />หรือเพราะอยากจะทำความรู้จักใครคนหนึ่งที่เฝ้าแอบมองเขาอยู่ทุกวันให้มากขึ้น <br />โดยผ่านความเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ ที่ทำให้หลี่ซืออิ๋ง สาวน้อยที่ทำงานพิเศษเป็นบาริสต้า <br />ในร้านกาแฟ "ใครคนนั้นที่ฉันเฝ้ารอ" พยายามจะจำแนกแยกแยะนิสัยใจคอของผู้คน<br />ผ่านลักษณะเครื่องดื่มที่เขาสั่ง<br />
<br />
<br />
<br />
เจ้าของร้านหญิง..ดื่มกาแฟมอคคาจาวาดีแคฟที่มีกลิ่นหอมอ่อนบาง<br />หอมสดชื่นกว่าช็อกโกแลตร้อน เบาสบาย ไม่มีภาระเร่งร้อน<br />เหมือนชีวิตตามสไตล์ของเธอนั่นล่ะ<br />
<br />
<br />
<br />
อาปู้ซือ ผู้ฉลาดและเงียบขรึม..ไม่ดื่มกาแฟ<br />แต่สามารถใช้จมูกแยกแยะกลิ่นหอมของมัน แล้วยังชงกาแฟรสเลิศได้ด้วยความสามารถนั้น<br />ไม่ต่างกับความสามารถในการมองผู้คนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง<br />
<br />
<br />
<br />
เมื่อมาที่้ร้านกาแฟคนเดียว เจ๋ออี๋ว์ดื่มเคนย่า ..<br />เคนย่าที่มีกลิ่นหอมเข้มข้น ทุกๆอึก ทุกๆกลิ่นเหมือนมีความรู้สึกอันหลากหลายอยู่เป็นเพื่อน<br />ความรู้สึกหลากหลายที่เจ้าตัวทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ<br />และทำได้เพียง สั่งกาแฟแบบเดียวกับหญิงสาวคนรัก ในยามที่มาร้านกาแฟด้วยกัน<br />โดยหวังอยู่ลึกๆว่าสักวัน จะได้สั่งเคนย่าสองแก้วอย่างสบายใจ<br />
<br />
<br />
<br />
ยายตัวร้ายดินระเบิด แฟนคนแรกของเจ๋ออี๋ว์ดื่มลาเต้<br />คนต่อมาดื่มสุลาเวสี<br />คนที่สามดื่มน้ำส้ม<br />
<br />
<br />
<br />
ส่วนอาท่า ..<br />อาท่าคือน้ำเปล่าแก้วใส มีโลกที่เรียบง่าย<br />มีสายตาที่มองเห็นความดี และความมหัศจรรย์ของผู้คน<br />ในขณะที่หลี่ซืออิ๋งมักรู้สึกว่าการเห็นสิ่งเล็กน้อยแล้วรู้ภาพรวม ช่วยให้รู้จักคนคนหนึ่งนั้นมีเหตุผล<br />อาท่ากลับให้ดูคนคนหนึ่งจากคนคนนั้น<br />
<br />
<br />
มันอาจจะเกี่ยว..หรือไม่เกี่ยวกันก็ได้<br />
<br />
<br />
เหมือนอย่างการที่บางครั้ง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผู้ชายคนหนึ่งจะเป็นคนอย่างไร<br />ดี เพียบพร้อมอย่างชายในฝัน ช่างเอาอกเอาใจ<br />หรือไม่เคยพยายามพิสูจน์อะไร แค่คอยอยู่เคียงข้างและแบ่งปัน<br />
แบบไหนดีกว่ากันไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันอยู่ที่ผู้หญิงเป็นคนแบบไหนต่างหาก :)<br />
<br />
<br />
<br />
เรื่องราวของความรัก การรู้จักตัวตน เมืองแห่งลม ที่แช่อยู่ในคาเฟอีนขี้เหงา<br />ถ่ายทอดผ่านตัวละครเปี่ยมสเน่ห์หลากหลาย <br />อารมณ์ขันอันหอมกรุ่น ละมุนละไมด้วยภาษาที่เรียบง่าย<br />และอวลอุ่นไอของมิตรภาพ เหมือนกับการประคองแก้วกาแฟเอาไว้ในฤดูหนาว<br />กำลังรอให้คุณได้ทดลองชิมอยู่ในหนังสือเล่มนี้<br />
"กาแฟรักอุ่นหัวใจ"<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj8oKDNw1fzEXpgC-SPuncK4pqRwKGqpnk8S7Wyh9QX2wYXXphjXZoQV_N4WjNfRYvYQgKrz7Dx86E15a3ElTkesxfozDWAnbOAt0w1I8O6IFDgXqf2oCi55jPds69FzqV5P2YdxrcR064/s1600/20130421_170849.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj8oKDNw1fzEXpgC-SPuncK4pqRwKGqpnk8S7Wyh9QX2wYXXphjXZoQV_N4WjNfRYvYQgKrz7Dx86E15a3ElTkesxfozDWAnbOAt0w1I8O6IFDgXqf2oCi55jPds69FzqV5P2YdxrcR064/s320/20130421_170849.jpg" width="192" /></a></div>
กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-39385765127513352272013-02-26T19:38:00.000+07:002013-03-01T06:04:12.582+07:0042.195 กับมุมมองในมัชฌิมยามแห่งชีวิต<div style="text-align: justify;">
<u>คำเตือน</u> ต่อไปนี้คือการเปิดเผยเนื้อหาของเรื่อง...แบบเต็มๆ...ถ้าใครยังไม่อยากโดนสปอยล์ โปรดข้ามไปอ่าน part หลังโดยพลัน</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
===================================================</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
คำถามหนึ่งที่นักวิ่งมาราธอน (นับรวมมินิ และฮาล์ฟด้วย) ทุกคนคงเคยเจอก็คือ วิ่งไปทำไม วิ่งแล้วได้อะไร สนุกเหรอ ชนะแล้วได้เงินมั้ย หลายคนอาจถามเพราะอยากรู้จริงๆ แต่อีกหลายคนใช้คำถามเพื่อจะได้แสดงทัศนะของตนต่อจากนั้นว่า การวิ่งมาราธอนดูไปแล้วช่างไร้เหตุผลและน่าเบื่อสิ้นดี</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
นางเอกของ 42.195 ก็เป็นหนึ่งในนั้น "หล่อน"ถามคำถามทำนองนี้ไว้ในวันที่พบกับ"เขา"ครั้งแรก เมื่อรู้ว่าเขากำลังฝึกซ้อมเพื่อวิ่งมาราธอน หล่อนเพิกเฉยกับมาราธอนดุจเดียวกับความรู้สึกที่มีให้"เขา"-เด็กหนุ่มผู้แอบครอบครัวมาวิ่งเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าคนเป็นหอบหืดแต่กำเนิดก็เล่นกีฬาได้</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
แต่เพียงในวันที่ 2 ด้วยสเน่ห์และความสดใสของเด็กหนุ่ม ทำให้หล่อนถึงกับต้องกลับมานั่งนับ ว่าจริงๆแล้วอายุของเขาห่างจากหล่อนกี่ปี และเมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ความรู้สึกดีๆที่ทั้งคู่มีต่อกันก็กระจ่างชัดในคืนวันหนึ่งก่อนแยกย้ายกลับบ้าน...พร้อมกับความรู้สึกแปลกใหม่อันนี้ หล่อนตั้งปณิธานกับเขาว่า...จะวิ่งมาราธอน</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiS8FIa-mfeLKtnzTKudA2bur7dm3uXuGaBh-SvNyQYdY_Bv1-Uz0Oll3zxaQf5NDgisrncQ82qAk0ZQgtdl_YL-f9FUca9aNwkE7QluhCM2BqpdpJS7O0gIrhGVrc0UCXvpHlXE1RvAhWC/s1600/42.195-BTS-101.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiS8FIa-mfeLKtnzTKudA2bur7dm3uXuGaBh-SvNyQYdY_Bv1-Uz0Oll3zxaQf5NDgisrncQ82qAk0ZQgtdl_YL-f9FUca9aNwkE7QluhCM2BqpdpJS7O0gIrhGVrc0UCXvpHlXE1RvAhWC/s400/42.195-BTS-101.jpg" height="263" width="400" /></a></div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
<a name='more'></a><br /></div>
<div style="text-align: justify;">
นี่นับเป็นจุดเปลี่ยนอันใหญ่หลวงเหลือเกิน ถ้าคุณทราบว่าหล่อนเพิ่งเสียสามีไปไม่ถึงปี และเฝ้าโทษตัวเองมาตลอดว่าการเสียชีวิตนั้นมีตัวเองเป็นต้นเหตุ จนทำให้เศร้าโศกถึงขนาดขอพักงานยาวนานหลายเดือนอย่างไม่มีกำหนดกลับ</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
...อะไรกันเล่า ที่ทำให้หล่อนลุกขึ้นกอบกู้ชีวิตตัวเอง เริ่มใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงและมีเป้าหมายอีกครั้งด้วยการซ้อมวิ่งมาราธอน ที่หล่อนเคยยั่วล้อว่า "มันคงสนุกดีเนอะ วิ่งคนเดียวเงียบๆเนี่ย" ...อะไรกันเล่า ที่ทำให้หล่อนเปิดใจให้ชายคนรักที่อายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปี และยิ่งกว่านั้น หล่อนได้สัญญาหน้าเมรุให้ทุกคนรับรู้ไปแล้วว่าจะไม่มีคนใหม่</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
เมื่อดูมาถึงตรงนี้เรานึกถึงหนังในดวงใจตลอดกาลเรื่องหนึ่ง The bridges of Madison County หนังรักที่ถ้าเด็กอายุ 15-16 มาดูคงเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกขยะแขยง ด้วยว่าเป็นเรื่องของแม่บ้านในวัยใกล้เคียงกับ "หล่อน" ที่บังเอิญได้ต้อนรับชายแปลกหน้า ในช่วงเวลา 4 วันที่สามีและลูกๆไปต่างเมือง จากการพูดคุยกันถูกคอเพราะมีใจรักด้านศิลปะเหมือนกัน พัฒนาเป็นความรักอย่างรวดเร็ว และจบลงด้วยการเป็นชู้สมบูรณ์แบบทั้งใจและกาย</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ใช่ ถ้าจะมองด้วยแว่นศีลธรรม มันเป็นเรื่องของชายโฉดหญิงชั่วคู่หนึ่ง แต่ถ้าเราเบือนหน้าหนีตั้งแต่แรก เหมือนกลัวไวรัสความเสื่อมจะกระเด็นมาติด เราคงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเหตุไรคุณแม่ลูกสองจึงประพฤติตนเช่นนั้น และเราคงไม่ได้เห็นว่า ในท้ายที่สุด เธอยอมให้หน้าที่ความเป็นแม่ เอาชนะอารมณ์ด้วยการปล่อยให้โอกาสที่จะได้หนีไปกับคนรักหลุดลอยไป พร้อมกับใบหน้าคนรัก ที่เธอได้เห็นเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ฉากนี้ดูกี่ทีก็โคตรสะเทือนใจ</div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/Ye8G8cqu27U" width="420"></iframe>
</div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
การนำเสนอเรื่องที่มีตัวเอกประพฤติผิดศีลธรรมไม่ได้แปลว่าหนังสนับสนุนให้คนทำชั่ว แต่เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เห็นโลกอย่างรอบด้าน เข้าใจถึงความเป็นมนุษย์ ว่ามีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง หนังดีไม่จำเป็นต้องลงเอยด้วยผลตอบแทนที่สาสมแก่คนทำความผิด เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง เราต่างรู้อยู่แก่ใจว่ากฏนี้ไม่เคย valid แล้วเหตุไรต้องพยายามคิดพล็อตเพื่อหลอกตัวเองและหลอกคนดู หนังดีไม่จำเป็นต้องกลัวว่าคนดูจะแยกแยะ ถูก-ผิด ไม่ได้และเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะสิ่งนี้อยู่ที่การปลูกฝังของพ่อแม่และสังคมต่างหาก ไม่ใช่เวลาแค่เพียง 2-3 ชั่วโมงในโรงหนัง</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
เราไม่เคยเห็นหนังไทยเรื่องใดเลยที่จะแหวกขนบนี้ไปได้ 42.195 เป็นความพยายามแรกๆ ที่พอจะสัมผัสได้ แม้หล่อนจะไม่ได้ทำผิดศีลธรรมใด เพียงแค่ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคนตาย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่นางเอกทั่วไปจะทำกันแน่นอน นางเอกต้องรักเดียวใจเดียวตลอดชีวิตและยึดมั่นในสัจวาจาเซ่! ยิ่งรักใหม่ของเธอคือเด็กหนุ่มคราวลูก ยิ่งดูน่าบัดสี (แบบเดียวกับความรู้สึกของหลายๆคนเวลาอ่านข่าวไทยรัฐ ประเภทแม่เฒ่าวัยดึกแต่งงานครั้งที่ 3 กับหนุ่มเอ๊าะ จะมีสักกี่คนที่จะคิดว่าเหตุผลคือ "รัก" ไม่ใช่ "เงิน") ความผิดธรรมเนียมปฏิบัติอย่างอุกอาจนี้ สะท้อนออกมาผ่านคำพูดของสายรุ้ง เพื่อนรักรุ่นน้องของเธอว่า "เจ๊...ยังไงชั้นก็รับไม่ได้อยู่ดี"</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj53grG8ZDtx5EqZCIG_TxETvM8vpnQYzghLLW1ag8JtQsNxJjKitZig_9W20_z7cXZSYIJm8dCyTyy1ALaC0n_KBIQCkwvv2JT8ivtbVfThsjzeMFPcwvPw6qPx4vMIXypsmyw1xIH6H8w/s1600/673457.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj53grG8ZDtx5EqZCIG_TxETvM8vpnQYzghLLW1ag8JtQsNxJjKitZig_9W20_z7cXZSYIJm8dCyTyy1ALaC0n_KBIQCkwvv2JT8ivtbVfThsjzeMFPcwvPw6qPx4vMIXypsmyw1xIH6H8w/s400/673457.jpg" height="263" width="400" /></a></div>
<br />
<br />
<div style="text-align: justify;">
หลังจากคล้อยตามทัศนคติของคนนอก ประกอบกับความรู้สึกผิดต่อสามีผู้ล่วงลับ จนถึงขั้นตัดรอนความสัมพันธ์กับเขาอย่างไม่ให้ตั้งตัว หล่อนก็เลิกฝึกซ้อมมาราธอนและกลับมาใช้ชีวิตอย่างหดหู่อีกครั้ง จนเมื่อแม่ของหล่อนได้รับรู้เรื่องรักใหม่จากคำบอกเล่าของสายรุ้งและมาหาหล่อนเพื่อบอกบางสิ่งบางอย่างกับลูกสาว คำสำคัญที่เปรียบประดุจน้ำทิพย์ชะโลมใจหล่อนเมื่อประเด็นการพูดคุยไหลเลื่อนมาถึงเด็กหนุ่มนักวิ่งคนนั้นว่า "ดีแล้ว จะได้คอยดูแลกัน" คนรุ่นเก่าที่ควรจะคอนเซอร์เวทีฟกว่าหล่อน 10 เท่า และกว่าสายรุ้ง 100 เท่า กลับเป็นผู้เปิดไฟเขียวให้ความสัมพันธ์ผิดธรรมเนียมปฏิบัติของทั้งคู่ อาจเป็นเพราะผ่านโลกมายาวนานจนไม่เหลือความยึดติด หรืออีกทีก็เพราะ สำหรับแม่แล้ว ความสุขของลูกเป็นเหตุผลที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
สำหรับหล่อนแล้ว ด้วยวัย 42 แม้อาจไม่ทรงภูมิพอจะเรียกว่า "ตกผลึกทางความคิด" แต่ก็นานพอที่จะสำนึกได้ว่าเราใช้เวลาตั้งแง่กับสิ่งต่างๆมาครึ่งชีวิตแล้ว เหลือเวลาอีกเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่จะรื่นรมย์กับโลกอันสวยงาม...ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งมาราธอนหรือรักครั้งใหม่ ย่อมควรค่าแก่การเปิดใจทั้งนั้น แม้จะไขว้เขวไปบ้าง แต่ในที่สุด ความกล้าที่จะพบชีวิตใหม่ก็เป็นคำตอบสุดท้าย ทั้งเมื่อ 3-4 เดือนก่อนที่ทำให้หล่อนยอมเปิดใจให้รัก หรือวินาทีนี้ ที่ทำให้หล่อนกลับมาเชื่อฟังหัวใจตัวเองอีกครั้ง ดังนั้น หลังจากฟังฉันทานุมัติกลายๆจากแม่แล้ว หล่อนจึงไม่ลังเลเลยที่จะลงแข่งขันมาราธอนในวันรุ่งขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันกับคนรักว่า หล่อนเลือกแล้วที่จะคบกับเขา</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ทุกสิ่งล้วนเรียบง่ายกว่าที่เราจินตนาการ แม้ระยะทางจะไกลถึง 42.195 กม. หน้าที่ของเราก็มีเพียงแค่การตั้งใจก้าวขา...แต่ละก้าว...ไปเรื่อยๆ และแม้ว่าการมีคนรักที่เด็กกว่ามากอาจเสี่ยงกับการที่ครอบครัวไม่ยอมรับ แต่ในเมื่อวันนี้ ยังไม่มีใครสักคนที่ต้องเสียใจ หน้าที่ของเราก็มีเพียงแค่ดูแลกันและกันให้ดีที่สุด ฉุดมือกันไปเมื่ออีกฝ่ายอ่อนล้าหมดแรง ทั้งมาราธอนและความรักก็ถึงเส้นชัยได้ไม่ต่างกัน</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0v9e4Vo_7JoYDpRcfjaoRfZNqF4m_15EOnjQaBNSMrsO6xolbSXmMLd3bISfGJX76hA1KVrbRLWJtnP7c40Ad_ZBGf9djBLheg84s9qlMSdeCFc72n2L2W0NJxeYhBWLvTpzKOXSLrl4N/s1600/kw1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi0v9e4Vo_7JoYDpRcfjaoRfZNqF4m_15EOnjQaBNSMrsO6xolbSXmMLd3bISfGJX76hA1KVrbRLWJtnP7c40Ad_ZBGf9djBLheg84s9qlMSdeCFc72n2L2W0NJxeYhBWLvTpzKOXSLrl4N/s400/kw1.jpg" height="265" width="400" /></a></div>
<br />
และแล้วหล่อนก็ได้พบชีวิตใหม่ที่เลือกเองกับมือ พร้อมๆเสียงปืน ณ เส้นสตาร์ทตอนตี 3 ของคืนวันนั้น<br />
=======================================================<br />
<br />
<div style="text-align: justify;">
42.195 หนังตอนสุดท้ายใน trilogy รัก 7 ปี ดี 7 หน นำมาราธอนและความรักมาวางไว้คู่กันประดุจความ duality ของระบบเครื่องกลและไฟฟ้าในเนื้อหาของวิชา circuit I เมื่อ "หล่อน" นางเอกของเรื่อง ตัดสินใจเริ่มวิ่งมาราธอนไปพร้อมๆกับความรู้สึกแปลกๆในหัวใจที่มีต่อครูฝึกวิ่งหนุ่มน้อยของหล่อน </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
มาราธอนไม่ง่ายฉันใด ความรักต่างวัยก็ยากเย็นฉันนั้น ด้วยอดีตที่หล่อนไม่สามารถก้าวพ้นมันมาครึ่งค่อนปี ทำให้ความรักและมาราธอนพบกับจุดเปลี่ยนในทางที่เลวร้ายลง แต่ในที่สุดทั้งสองสิ่งก็ไม่เกินจิตใจที่เข้มแข็งของมนุษย์ไปได้ </div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
42.195 สร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งกับคนที่อยากหลุดพ้นจากช่วงเวลาเลวร้ายของชีวิต และคนที่ไม่ได้มีวิกฤตอันใดเพียงแต่อยากทำให้ "แต่ละปีมีเป้าหมาย" ด้วยความสมจริงในรายละเอียดของชีวิตนักวิ่ง ทำให้หลายคนเมื่อดูจบแล้วเกิดอยากรู้พิกัดของ "สวนลับที่มีแต่เราเท่านั้นที่รู้จัก" ขึ้นมาทันที เป้าหมายมาราธอนถูกกำหนดขึ้นในจิตใจ ด้วยหวังจะได้พบประสบการณ์ พระอาทิตย์ขึ้นตอนกิโลเมตรที่ 28 บนสะพานพระราม 8 และปิศาจกิโลเมตรที่ 35 สักครั้งในชีวิต</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
แรงสะเทือนนี้ส่งผลใหญ่หลวงมากต่อวงการนักวิ่งถนน นักวิ่งหน้าใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รายการวิ่งในเขตกรุงเทพที่จำกัดจำนวนนักวิ่งเต็มก่อนปิดรับสมัครเกือบทุกงาน ปรากฏการณ์นี้ต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่หนังออกฉายปลายเดือนกรกฎาคม 2555 จนถึงวันนี้ และมีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆไม่ใช่เพียงแค่กระแสวูบวาบ ตรงกับที่คนเก่าคนแก่ในวงการได้เล่าไว้ว่า การเพิ่มจำนวนนักวิ่งถนนครั้งสำคัญมีอยู่ 3 ครั้ง ครั้งแรกคือเมื่องานวิ่งเปิดสะพานขึงพระรามเก้า ที่กระตุ้นให้คนทุกเพศทุกวัยลองออกมาวิ่งถนนเป็นครั้งแรกเพราะอยากสัมผัสสะพานที่น่าทึ่งด้วยเท้าตัวเองดูสักครั้ง (แม้แต่อากงของข้าพเจ้ายังไปวิ่งงานนี้เลย คิดดู๊) ครั้งที่สองคนเล่าจำไม่ได้ (ขออภัย ฟังเค้ามาอีกที แหะๆ) และครั้งที่ 3 ก็คือเมื่อหนังรัก 7 ปี ดี 7 หนออกฉายนั่นเอง</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
<div style="text-align: justify;">
นอกจากจะเศร้า-ซาบซึ้งน้ำตาไหลพรากๆ หลายฉากแล้ว ผู้เขียนขอแสดงความซาบซึ้งต่อคุณูปการของหนัง ที่ทำให้ชีวิตหลายคนเปลี่ยนไปในทางที่ดี ตรงกับที่คามิน คมนีย์ เจ้าของหนังสือสารคดีนักวิ่งถนนเรื่อง <a href="http://oorrunningblog.blogspot.com/2012/01/1.html" target="_blank">เย็นวันเสาร์-เช้าวันอาทิตย์</a> ได้กล่าวไว้ว่า "มันเป็นชีวิตที่ดี"</div>
</div>
<div style="text-align: justify;">
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
</div>
<div style="text-align: center;">
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/HZT_9lmD1qc" width="560"></iframe><br />
<br />
<br /></div>
กล้วยไข่ เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/17065376333172617761noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-47635226708910477742013-02-25T18:29:00.000+07:002013-03-01T06:04:38.679+07:00Warm bodies ..ซอมบี้ที่รัก ใช่เราหรือเปล่า ที่มักจะหลงลืมใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง<br />
ใช่เราหรือเปล่า ที่ง่วนอยู่กับโทรศัพท์ แทนการพูดคุยกับคนที่นั่งตรงหน้า<br />
ใช่เราไหม..ที่เดินชนคนแล้วไม่รู้สึกรู้สาอะไร เห็นความเดือดร้อนของใคร..ก็เป็นเรื่องของคนนั้น<br />
<br />
แล้วใช่เราไหมที่จำไม่ได้แล้วว่า เคยมีความฝันอะไรบ้าง<br />
อาจเพราะทุกสิ่งที่เราต้องการ คือการได้มีอะไรเหมือนที่ใครๆเค้ามีกัน<br />
<br />
ถ้าหากว่า "เป็นเรา" ที่มีหลายๆข้อที่ว่ามานั้น<br />
ระวัง ระวัง และระวัง !!! เราอาจกำลังจะกลายเป็นซอมบี้ >.<<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/i1HBtsRv09U?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div>
<br />
<br />
<a name='more'></a><br /><br />
<br />
Warm Bodies หรือซอมบี้ที่รัก เล่าเรื่องของซอมบี้หนุ่ม (สุดหล่อ >.<)<br />
ที่ตัวเค้าเองก็จำไม่ได้แล้วว่า ตัวเองชื่ออะไร กลายมาเป็นซอมบี้ได้ยังไง<br />
รู้แต่ว่า มีชีวิตโดดเดี่ยว หลงทางไปวันๆ เดินชนใครโดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก<br />
สื่อสารโดยการพูดได้อย่างยากลำบาก ไม่มีความรู้สึก ..และไร้ซึ่งความฝัน<br />
<br />
มันอาจจะเกิดจากเชื้อไวรัส หรือสงครามอาวุธชีวภาพ <br />
หรือไม่อีกที..มันอาจเกิดจากวิถีชีวิตที่มนุษย์ในยุคนี้ค่อยซึมซับ<br />
ปรับตัว และในที่สุด..กลายพันธุ์..จากสัตว์สังคมที่อยู่กันอย่างอบอุ่น <br />
ช่วยเหลือเกื้อกูล ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน<br />
เป็นสิ่งมีชีวิตที่เย็นชา ตายด้าน มีเสียงพูดดังอยู่ในความคิด <br />
เหมือนกับเวลาที่เราคยชินยามกดแป้นพิมพ์ แต่กลับลืมวิธีพูดไปเสียแล้ว<br />
<br />
<br />
แต่เมื่อเขาพบเธอ ทุกสิ่งในชีวิตเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ..<br />
<br />
ความรักของชายหนุ่มกับร่างกายที่ไม่มีหัวใจ (ที่ยังเต้นได้)<br />
และหญิงสาวที่มีหัวใจดวงที่ว่างเปล่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร<br />
ลุ้นกันเอาเองแล้วกันนะคะ ^^<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhNZ4cEpQ1_aECVLK_2Xh44bGMo5fcS-Fj4KTuWVFNvmf6aC2p9VyycIfzVt-HnjBXvnzm_A_ffobWTQEyl_t5vel3tLcjjklRRtSmwndoDE2tF-2UUbUJo9mxQVAbHRF-0EZOGWw2T83A/s1600/Warm-Bodies-warm-bodies-movie-32748443-1000-650.png" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhNZ4cEpQ1_aECVLK_2Xh44bGMo5fcS-Fj4KTuWVFNvmf6aC2p9VyycIfzVt-HnjBXvnzm_A_ffobWTQEyl_t5vel3tLcjjklRRtSmwndoDE2tF-2UUbUJo9mxQVAbHRF-0EZOGWw2T83A/s320/Warm-Bodies-warm-bodies-movie-32748443-1000-650.png" height="208" width="320" /></a></div>
<br />
<br />กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-52132257899924040172013-02-21T22:37:00.000+07:002013-03-01T06:04:52.753+07:00Life of PI..การเดินทางของพาย พาเทล<br />
<br />
<br />
หากต้องรอนแรมลอยลำในเรือชูชีพลำน้อย กลางมหาสมุทรแปซิฟิกอันเวิ้งว้าง<br />
<br />
ผ่านเวลาสองร้อยยี่สิบเจ็ดวันอย่างเชื่องช้ายาวนาน <br />
<br />
ต่อสู้กับความหิวโหย หวาดกลัว สิ้นหวัง และเดียวดาย<br />
<br />
ในสถานการณ์เช่นนั้น หากเราสามารถร้องขอสิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวที่จะ “ลงเรือลำเดียวกัน”กับเรา<br />
<br />
จากพระเจ้า..หรือโชคชะตาได้ คุณจะเลือกขอสิ่งมีชีวิตชนิดใดกันคะ :)<br />
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
<br />
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5rNPnaC_AZdP-azTleYJNGlEPQT4X0m01L4Q0PdHhhUonTKkUIP728Mhe_OuQR6iDjj7V9-GQVxvaO3odyy1xh6Vtj2UBVOQNtRcLfV5-CsscSQKRVYuneBvzI1VYAQdnoCfq2GzdqDE/s1600/285386_566300200048984_469077430_n.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh5rNPnaC_AZdP-azTleYJNGlEPQT4X0m01L4Q0PdHhhUonTKkUIP728Mhe_OuQR6iDjj7V9-GQVxvaO3odyy1xh6Vtj2UBVOQNtRcLfV5-CsscSQKRVYuneBvzI1VYAQdnoCfq2GzdqDE/s320/285386_566300200048984_469077430_n.jpg" height="320" width="320" /></a></div>
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
<br />
<div style="text-align: left;">
Cr.<a href="http://www.facebook.com/pages/Interesting-Facts/449359381743067?group_id=0">Interesting Facts</a> </div>
<div style="text-align: left;">
<br /></div>
<br />
<a name='more'></a><br /><br />
<br />
พาย พาเทลศรัทธาในพระเจ้า ..<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
ไม่แค่พระเจ้าเพียงองค์เดียว ไม่ใช่เพียงแค่พระเจ้าในศาสนาเดียว<br />
<br />
แต่พายนับถือพระผู้สร้างและผู้ทำลายในศาสนาฮินดู และหลักธรรมที่ทำให้เขาเกิดความกระจ่างในเรื่องจักรวาล<br />
<br />
รู้จักที่ทางของตัวเองในจักรวาลนี้<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
พายนับถือศรัทธาในพระเยซูคริสต์ และมีความรักของพระองค์อยู่ในหัวใจ<br />
<br />
พายนับตัวเองเป็นชาวคริสต์ตั้งแต่ได้รู้จักพระเยซูเจ้า ก่อนจะได้รับศีลล้างบาปด้วยซ้ำ<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
และแก่นแท้ของศาสนาอิสลามนั้น สวยงามมาก แนวคิดเรื่องภราดรภาพและการอุทิศตน<br />
<br />
ทำให้พายเพียรเฝ้าขัดเกลาจิตใจของตนเพื่อให้เข้าถึง สนิทสนม และเปี่ยมไปด้วยความรักต่อองค์อัลลอฮ์<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
สำหรับพายแล้ว “ทุกศาสนาล้วนเป็นสัจจะ” และเขาก็แค่อยากจะรักในพระเจ้าเท่านั้น <br />
<br />
เพราะไม่ว่าโลกใบนี้จะมีสักกี่ศาสนาก็ตาม ..พระเจ้าที่มีเพียงพระองค์เดียว :)<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPRC1F9N-GKT_kTJ_hAF_BPkvPnSZKSVUGYlNc4mlFnpwIxQ1nkq_2cU-8RtviREFFBKy7aw6CbufpaNswc8QDpMtDX0J4eFSFZmcioHDLGJr0d-tZAljc7rStlnEuc4xUHNapz2Q5_cI/s1600/483427_615985998427226_872092967_n.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhPRC1F9N-GKT_kTJ_hAF_BPkvPnSZKSVUGYlNc4mlFnpwIxQ1nkq_2cU-8RtviREFFBKy7aw6CbufpaNswc8QDpMtDX0J4eFSFZmcioHDLGJr0d-tZAljc7rStlnEuc4xUHNapz2Q5_cI/s320/483427_615985998427226_872092967_n.jpg" height="320" width="244" /></a></div>
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
Cr.<a aria-controls="js_53" aria-haspopup="true" aria-owns="js_53" data-hovercard="/ajax/hovercard/page.php?id=279662078726288&extragetparams=%7B%22group_id%22%3A0%7D" href="http://www.facebook.com/IdleHeartsCommunity?group_id=0" id="js_54">IdleHearts</a> <br />
<br />
<br />
<br />
แล้วในวันหนึ่ง ศรัทธาในพระเจ้าของพายก็ถูกท้าทาย..<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
เมื่อครอบครัวที่เป็นเจ้าของกิจการสวนสัตว์ต้องอพยพย้ายจากอินเดียไปยังแคนาดา<br />
<br />
เรือโดยสารที่บรรทุกสัตว์ทั้งหลาย ครอบครัวของพาย และเหล่าคนเรือได้อับปางลงกลางมหาสมุทรแปซิฟิก<br />
<br />
และพายผู้รอดชีวิต ต้องติดอยู่บนเรือ อันประกอบไปด้วยห่วงโซ่อาหารฉบับย่อ<br />
<br />
ที่มีม้าลาย ลิงอุรังอุตัง ไฮยีนา และเสือโคร่งเบงกอลอยู่รวมกัน <br />
<br />
หากให้เลือกคำตอบที่เป็นไปได้มากที่สุด เสือโคร่งน่าจะอยู่ในอันดับบนสุดของห่วงโซ่อาหาร<br />
<br />
แต่พายผู้มุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอดกลับไปให้ได้ กับศรัทธาในพระเจ้าที่เต็มเปี่ยมในหัวใจ <br />
<br />
จะทำวิธีใดให้หลุดพ้นจากความน่าจะเป็นดังว่า ?<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
การเดินทางของพาย พาเทล เล่าเรื่องได้อย่างสนุกสนาน น่าติดตาม<br />
<br />
มีเหตุมีผล มีที่มาที่ไป ราวกับทั้งชีวิตที่ผ่านมาก่อนเรือแตกของพาย <br />
<br />
ได้ถูกพระเจ้าตระเตรียมเพื่อให้เขาต้องติดอยู่บนเรือกับเสือโคร่งอย่างไรอย่างนั้น<br />
<br />
และศรัทธาในพระเจ้าขงพายได้พิสูจน์ตัวมันเอง ให้เราเห็นชอบทุกประการว่า<br />
<br />
หากพระองค์ประทานสัตว์อื่นมา พายอาจตายไปนานแล้ว<br />
<br />
<br />
<br />
แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเรื่องเล่าที่เหลือเชื่อมาก ..<br />
<br />
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
<br />
<br />
<i>“โลกไม่ได้เป็นอย่างที่มันเป็นเท่านั้นหรอก อยู่ที่ความเข้าใจของเราต่างหาก</i><br />
<div>
<i><br /> คุณว่าไหม เรารู้จักและเข้าใจสิ่งใด ก็ต้องเติมและเสริมสิ่งนั้น คุณว่าไหม ด้วยเหตุนี้ ชีวิตจึงกลายเป็นเรื่องเล่าไง”</i><br />
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
<br />
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJ2d30TKQF0EeogYzkSTZmUxBrqItu6Qe6r0nFapTu2PT3iTDAQnhVBo62HiMq2eLGOOHdCO04ZSTyKEZph8I2hKoDAUcx4OzbxLkdz63zrMKAvEEWcsTVZ1plhSXF6U8hf1mOt5d9LbA/s1600/422600_489427081094331_1615039658_n.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgJ2d30TKQF0EeogYzkSTZmUxBrqItu6Qe6r0nFapTu2PT3iTDAQnhVBo62HiMq2eLGOOHdCO04ZSTyKEZph8I2hKoDAUcx4OzbxLkdz63zrMKAvEEWcsTVZ1plhSXF6U8hf1mOt5d9LbA/s320/422600_489427081094331_1615039658_n.jpg" height="222" width="320" /></a></div>
<div style="text-align: left;">
<br /></div>
<div class="fbPhotoContributorName" id="fbPhotoSnowliftAuthorName">
<div style="text-align: left;">
Cr. <a href="http://www.facebook.com/neolutionEsport">Neolution E-Sport</a></div>
</div>
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
<o:p> </o:p><o:p></o:p></div>
<br />
<br />
<br />
ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้จบลงด้วยความอิ่มเอมในใจ บอกกับตัวเองเบาๆว่า <br />
ในช่วงเวลาที่มืดมิด เมื่อเหตุผลยอมจำนนต่อความกลัวที่เกาะกินใจ<br />
<br />
<br />
ศรัทธาคือแสงสว่างเดียวที่จะยังเรืองรองอยู่ได้<br />
มันไม่สำคัญหรอกว่าสิ่งที่เค้าเล่าว่า หรือสิ่งที่คนเชื่อกันจะเป็นอย่างไร<br />
<br />
<br />
มันสำคัญที่เราเลือกจะเชื่ออย่างไรมากกว่า<br />
<br />
<br />
<br />
ไม่ว่าคุณจะศรัทธาในพระเจ้าหรือศาสดาพระองค์ไหน..กระทั่งไม่มีเลยก็ตาม<br />
อย่างน้อยหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณยังศรัทธาในชีวิต :)<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt;">
</div>
</div>
กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-25491714251852896692013-02-09T14:59:00.000+07:002013-03-01T06:05:13.087+07:00มนุษย์ ความหมาย และค่ายกักกัน : Man Search for Meaning<!--[if gte mso 9]><xml>
<w:WordDocument>
<w:View>Normal</w:View>
<w:Zoom>0</w:Zoom>
<w:TrackMoves/>
<w:TrackFormatting/>
<w:PunctuationKerning/>
<w:ValidateAgainstSchemas/>
<w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid>
<w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent>
<w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText>
<w:DoNotPromoteQF/>
<w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther>
<w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian>
<w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript>
<w:Compatibility>
<w:BreakWrappedTables/>
<w:SnapToGridInCell/>
<w:ApplyBreakingRules/>
<w:WrapTextWithPunct/>
<w:UseAsianBreakRules/>
<w:DontGrowAutofit/>
<w:SplitPgBreakAndParaMark/>
<w:DontVertAlignCellWithSp/>
<w:DontBreakConstrainedForcedTables/>
<w:DontVertAlignInTxbx/>
<w:Word11KerningPairs/>
<w:CachedColBalance/>
</w:Compatibility>
<m:mathPr>
<m:mathFont m:val="Cambria Math"/>
<m:brkBin m:val="before"/>
<m:brkBinSub m:val="--"/>
<m:smallFrac m:val="off"/>
<m:dispDef/>
<m:lMargin m:val="0"/>
<m:rMargin m:val="0"/>
<m:defJc m:val="centerGroup"/>
<m:wrapIndent m:val="1440"/>
<m:intLim m:val="subSup"/>
<m:naryLim m:val="undOvr"/>
</m:mathPr></w:WordDocument>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml>
<w:LatentStyles DefLockedState="false" DefUnhideWhenUsed="true"
DefSemiHidden="true" DefQFormat="false" DefPriority="99"
LatentStyleCount="267">
<w:LsdException Locked="false" Priority="0" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Normal"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="heading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="9" QFormat="true" Name="heading 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 7"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 8"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" Name="toc 9"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="35" QFormat="true" Name="caption"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="10" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" Name="Default Paragraph Font"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="11" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtitle"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="22" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Strong"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="20" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="59" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Table Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Placeholder Text"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="1" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="No Spacing"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" UnhideWhenUsed="false" Name="Revision"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="34" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="List Paragraph"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="29" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="30" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Quote"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 1"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 2"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 3"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 4"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 5"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="60" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="61" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="62" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Light Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="63" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="64" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Shading 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="65" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="66" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium List 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="67" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 1 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="68" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 2 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="69" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Medium Grid 3 Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="70" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Dark List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="71" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Shading Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="72" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful List Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="73" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" Name="Colorful Grid Accent 6"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="19" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="21" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Emphasis"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="31" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Subtle Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="32" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Intense Reference"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="33" SemiHidden="false"
UnhideWhenUsed="false" QFormat="true" Name="Book Title"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="37" Name="Bibliography"/>
<w:LsdException Locked="false" Priority="39" QFormat="true" Name="TOC Heading"/>
</w:LatentStyles>
</xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]>
<style>
/* Style Definitions */
table.MsoNormalTable
{mso-style-name:"Table Normal";
mso-tstyle-rowband-size:0;
mso-tstyle-colband-size:0;
mso-style-noshow:yes;
mso-style-priority:99;
mso-style-qformat:yes;
mso-style-parent:"";
mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt;
mso-para-margin-top:0cm;
mso-para-margin-right:0cm;
mso-para-margin-bottom:10.0pt;
mso-para-margin-left:0cm;
line-height:115%;
mso-pagination:widow-orphan;
font-size:11.0pt;
mso-bidi-font-size:14.0pt;
font-family:"Calibri","sans-serif";
mso-ascii-font-family:Calibri;
mso-ascii-theme-font:minor-latin;
mso-fareast-font-family:"Times New Roman";
mso-fareast-theme-font:minor-fareast;
mso-hansi-font-family:Calibri;
mso-hansi-theme-font:minor-latin;
mso-bidi-font-family:"Cordia New";
mso-bidi-theme-font:minor-bidi;}
</style>
<![endif]-->
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">สิ่งที่ไม่ฆ่าฉัน..จะทำให้ฉันเข้มแข็งกว่าเดิม</span></b><br />
<span style="color: #999999;">(<span lang="TH">นิตช์เช)</span></span><br />
<br />
<span lang="TH">นอกเหนือจากหนังสือที่ทำให้มองโลกด้วยสายตาอ่อนโยน หัวใจเต้นละมุน</span>
<br />
<span lang="TH">อย่างหนังสือในชุดตัวหนังสือคุยกันของพี่จิก ประภาส</span><br />
<span lang="TH">หนังสืออีกเล่มที่ฉันหยิบติดมือมาเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วม
<br />
และต้องระหกระเหินมานอนค้างยังที่ทำงาน</span><br />
<span lang="TH">คือหนังสือของวิคเตอร์ อี แฟรงเกิล..</span>Man Search for Meaning<br />
<span lang="TH">ที่มีชื่อเป็นภาษาไทยว่า</span><br />
<br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">มนุษย์ ความหมาย
และค่ายกักกัน</span></i><br />
<br />
<span lang="TH">ฉันเคยเขียนถึงหนังสือเล่มนี้ไปเมื่อห้าปีก่อน
ตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบลงใหม่ๆ</span><br />
<span lang="TH">ผ่านมาแล้วห้าปี ไม่ว่าจะหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านซ้ำอีกกี่ที</span><br />
<span lang="TH">สิ่งที่ได้รับก็ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย</span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjStZxvea8Azm9UJj1RnkA67r3FApmqSvGb0o2ISFpN1Zd7gJ3SxU74_pmj042bAGg_j-p5aY6DnM1Ku0UW_Wl3JtuHqEu2P1PQ7eyjyum32c36cvXytBIZOSSQQKT1efprKKiiS7qLVhM/s1600/victor.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjStZxvea8Azm9UJj1RnkA67r3FApmqSvGb0o2ISFpN1Zd7gJ3SxU74_pmj042bAGg_j-p5aY6DnM1Ku0UW_Wl3JtuHqEu2P1PQ7eyjyum32c36cvXytBIZOSSQQKT1efprKKiiS7qLVhM/s1600/victor.jpg" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<br />
<br />
<a name='more'></a><br /><br />
<br />
<br />
<span lang="TH">วิคเตอร์ อี แฟรงเกิล
เป็นจิตแพทย์ที่เป็นอดีตเชลยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ </span>2<br />
<span lang="TH">ผู้ซึ่งสามารถรอดชีวิตมาได้จากค่ายกักกันที่โหดร้ายที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์</span><br />
<span lang="TH">ค่ายที่เค้าบอกเล่าในหนังสือว่า ไม่ได้ใหญ่โตจนเป็นที่รู้จัก</span><br />
<span lang="TH">“แต่เป็นที่ที่การทำลายเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติได้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง”</span><br />
<br />
<span lang="TH">ในที่ที่มนุษย์ผู้หนึ่งถูกฉีกกระชาก พรากจากทุกสิ่งที่เคยมี</span><br />
<span lang="TH">ทรัพย์สมบัติ สถานะทางสังคม ชื่อเสียง ครอบครัว คนรัก</span><br />
<span lang="TH">ที่ที่ง่ายดายเหลือเกินที่จะทำให้คนคนหนึ่งสูญสิ้นคุณค่าแห่งการมีชีวิตไป</span><br />
<span lang="TH">ต้องถูกทารุณกรรมทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ</span><br />
<span lang="TH">เกียรติ ศักดิ์ศรี คุณค่าความเป็นคนถูกเหยียบย่ำไร้ความหมาย</span><br />
<span lang="TH">ได้รับการปฏิบัติไม่ต่างอะไรจากเดรัจฉานตัวหนึ่งเท่านั้น</span><br />
<br />
<span lang="TH">เดรัจฉานที่เพียงการกระดิกนิ้วแค่ครั้งเดียว
ก็สามารถถูกฆ่าได้ทุกขณะ</span><br />
<br />
<span lang="TH">ในที่เดียวกันนี้เองที่วิคเตอร์ได้ค้นพบสิ่งที่เรียกว่า “อิสรภาพ”</span><br />
<span lang="TH">เป็นอิสรภาพสูงสุดที่มนุษย์สามารถมีได้ ไม่ว่าเขาจะถูกกักขัง ทรมาน</span><br />
<span lang="TH">หรือตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน</span><br />
<span lang="TH">เพราะมันคืออิสรภาพทางความคิด ที่คนคนหนึ่ง</span><b><span style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">"<span lang="TH">สามารถเลือกได้"</span></span></b><span lang="TH"> ว่าตัวเขาจะเป็นอย่างไร</span> <br />
<span lang="TH">นั่นทำให้คนคนหนึ่งยังคงสามารถรักษาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ได้</span><br />
<span lang="TH">แม้จะอยู่ในสภาพตกต่ำอย่างในค่ายกักกันก็ตาม</span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ข้าพเจ้าหวั่นเเกรง
..สิ่งนั้นคือ</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ข้าพเจ้าหาได้มีคุณค่าคู่ควรกับความทุกข์ทรมานที่ได้รับไม่</span></b><br />
<span style="color: #999999;">(<span lang="TH">ดอสโตเยฟกี้)</span></span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-yMxsmN_KCJmHNf7oiKcKmIQDvv2AqgNFs3W3e3wHmw24JWcGozipP7RI75Xfy8ulCr_r9taif8SDm2nhGSSF8Y9IaVZySMjkin5CsANBzLe20HdDxPjlKxiehfFiwYeHlNICoR5E8p8/s1600/%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%258C.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg-yMxsmN_KCJmHNf7oiKcKmIQDvv2AqgNFs3W3e3wHmw24JWcGozipP7RI75Xfy8ulCr_r9taif8SDm2nhGSSF8Y9IaVZySMjkin5CsANBzLe20HdDxPjlKxiehfFiwYeHlNICoR5E8p8/s320/%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%258C.jpg" height="320" width="215" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<span lang="TH">หนังสือเล่มนี้ให้ความหมายกับความทุกข์ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต</span><br />
<span lang="TH">และในความทุกข์ที่เราต้องเผชิญ มีความหมายซ่อนเร้นอยู่ในตัวของมัน</span><br />
<span lang="TH">ถ้าหากเราเลือกถูก ความทุกข์จะยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น</span><br />
<br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากมากที่สุด
การยอมรับชะตากรรม</span></i><br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">และความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้นตามมา
</span></i><b><i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ตลอดจนวิธีที่เราแบกรับความทุกข์ทั้งมวลเอาไว้</span></i></b><br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ล้วนแล้วแต่สร้างโอกาสเหลือคณานับที่จะเพิ่มความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่าให้แก่ชีวิต</span></i><br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">เราอาจดำรงรักษาความกล้าหาญองอาจ
เกียรติศักดิ์ศรี และปราศจากความเห็นแก่ตัว</span></i><br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">หรืออาจลืมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตน
และมีชีวิตไม่ดีไปกว่าสัตว์เดรัจฉาน</span></i><br />
<i><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ในท่ามกลางการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอกมุ่งจะปกป้องตนเองนั้น</span></i><br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">เรามีเสรี
เราเลือกได้ !</span></b><br />
<span lang="TH">ความเข้มแข็งภายในของจิตใจคนเราผลักดันให้เราทำตัวอยู่เหนือชะตากรรมภายนอกได้</span><br />
<span lang="TH">หนังสือเล่มนี้ตอกย้ำศรัทธาของฉันต่อสิ่งนั้น :)</span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">บุคคลผู้ซึ่งมีเหตุผลจะมีชีวิตอยู่
ย่อมสามารถอดทนต่อสภาพที่เกิดขึ้น</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใดได้เกือบทุกอย่าง</span></b><br />
<br />
<span lang="TH">แม้แต่ความทุกข์เอง
ก็เป็นเหตุผลแห่งการดำรงอยู่ของคนได้..เชื่อไหมคะ</span><br />
<span lang="TH">อาจารย์ของฉันเคยเล่าถึงเรื่องราวของชายชราคนหนึ่ง
ที่เป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง</span><br />
<span lang="TH">เนื่องจากสูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รัก เมื่อไม่มีภรรยา
เค้าก็ไม่รู้ว่า</span><br />
<span lang="TH">จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน</span><br />
<br />
<span lang="TH">จิตแพทย์ได้พูดคุยซักถามกับชายคนนี้ ว่าแต่งงานกับภรรยามากี่ปี</span><br />
<span lang="TH">รักกันมากแค่ไหน แล้วในทางตรงกันข้าม หากเป็นชายชราที่ตายก่อน</span><br />
<span lang="TH">ภรรยาของเค้าจะเป็นอย่างไร</span><br />
<br />
<span lang="TH">ชายชราตอบว่า ถ้าเป็นเค้าที่ตายก่อนภรรยาก็คงมีสภาพทุกข์ทรมานใจไม่ต่างกัน</span><br />
<span lang="TH">จิตแพทย์จึงตอบว่านี่แหละเหตุผลที่เค้าต้องมีชีวิตอยู่</span><br />
<span lang="TH">เค้าต้องเป็นฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่
เพื่อเป็นฝ่ายทนแบกรับความทุกข์ทรมาน</span><br />
<span lang="TH">เค้าต้องเป็นฝ่ายที่ยังมีชีวิตอยู่ ภรรยาเค้าเป็นฝ่ายที่ต้องตาย</span><br />
<span lang="TH">เพื่อว่าเธอจะได้ไม่ต้องมีโอกาสเผชิญหน้ากับความทุกข์ที่เค้าเป็นอยู่ในขณะนั้น</span><br />
<span lang="TH">เหตุผลเพียงเท่านี้เอง ที่ทำให้ชายคนนั้นเข้าใจและยอมรับ</span><br />
<span lang="TH">ความหมายของความทุกข์ และความหมายของการมีชีวิต</span> <br />
<span lang="TH">ภารกิจที่เค้า ต้อง ! เป็นผู้กระทำ</span> <br />
<span lang="TH">แม้ว่านั่นจะหมายถึงการต้องทนทุกข์ทรมาน</span> <span lang="TH">อยู่กับความคะนึงหาภรรยาผู้เป็นสุดที่รักทุกเมื่อเชื่อวัน</span><br />
<span lang="TH">เพราะไม่ว่าด้วยความเป็นหรือความตาย เค้าก็ยินดีจะเป็นฝ่ายแบกรับความทุกข์นั้นแทนภรรยา</span><br />
<br />
<span lang="TH">จนกว่าวันสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง.. </span><br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ความรักนั้นลึกซึ้งเกินกว่าสรีระสังขารของคนที่เรารัก</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ความรักได้ให้ความหมายลึกซึ้งสุดหยั่งในจิตวิญญาณของคน</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ไม่ว่าคนๆนั้นจะยังมีตัวตน..ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม..ก็ล้วนหามีความสำคัญใดๆไม่</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">จงเก็บฉันตราตรึงผนึกไว้ในใจเธอ..เพราะความรักนั้นทรงอานุภาพเข้มแข็งเทียบเท่าความตาย</span></b><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b><span lang="TH">เพราะมนุษย์ทุกคน ล้วนมีค่ายกักกันเป็นของตัวเอง</span></b><br />
<span lang="TH">ทั้งที่รู้ตัว และไม่รู้ตัว ทั้งที่มองเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม<br />
บางครั้งเราดิ้นรนพยายามจะหลุดพ้นจากมัน <span style="mso-spacerun: yes;"> </span>แต่บางครั้งก็ไม่</span><br />
<span lang="TH">ในทุกครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังต้องตัดสินใจ
เพื่อยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง <br />
ในทุกครั้งที่ถามตัวเองว่า ทำไมถึงต้องเป็นคนในแบบที่เป็นอยู่ <br />
ในเมื่อมีอีกวิถีทางที่ง่ายกว่า และ</span>..<span lang="TH">ใครๆเค้าก็ทำกัน<br />
เป็นทุกครั้งที่ฉันจะเลือกอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วฉันก็จะพบว่า <br />ทั้งค่ายกักกันส่วนตัว และทางที่ฉันเลือกนั้น มันเทียบไม่ได้เลยแม้เพียงส่วนเสี้ยวของ<br />หน้าประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้</span><br />
<br />
<br />
<span lang="TH">และมีหลายครั้งที่ฉันต้องหยุดอ่าน ..</span><br />
<br />
<br />
<span lang="TH">สูดลมหายใจยาวๆเข้าปอดทั้งด้วยความสยดสยอง และสะเทือนใจ</span><br />
"<span lang="TH">ภาพ"ที่เกิดจากการใช้หัวใจซึมซับจากตัวอักษรที่ถ่ายทอดมานั้น</span><br />
<span lang="TH">แจ่มชัด..แจ่มชัดจนเกินไป..จนไม่อาจทนอ่านต่อเนื่องกันครั้งละนานๆได้</span><br />
<span lang="TH">แต่ถึงอย่างนั้นความเป็นจริงที่ชัดยิ่งกว่า
จัดจ้าเปล่งประกายจนแทบจะรู้สึกแสบตา</span><br />
<span lang="TH">คือคุณค่าของอิสรภาพทางความคิด ศรัทธา ความรัก และความหวัง</span><br />
<span lang="TH">สิ่งเหล่านี้ <b>ไม่มีใครหรืออะไรในโลกมาพรากจากเราได้
</b>ไม่ว่าโลกใบนี้จะโหดร้ายเพียงใดก็ตาม</span><br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8cS7CoxzqkobOd0M6O6rSIeDJXsKcbyiTuCutsijM3-uMPq0uXZ5cuc-ZFuJFuVFCTfjJXbfArddHC68_cdKZ9n4IWRyOWr_V8iCbK2N_eXYVubLSSLRqnyzVOqts58HYKpPYV4U7dno/s1600/auschwitzmuseum.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi8cS7CoxzqkobOd0M6O6rSIeDJXsKcbyiTuCutsijM3-uMPq0uXZ5cuc-ZFuJFuVFCTfjJXbfArddHC68_cdKZ9n4IWRyOWr_V8iCbK2N_eXYVubLSSLRqnyzVOqts58HYKpPYV4U7dno/s400/auschwitzmuseum.jpg" height="295" width="400" /> </a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
Cr.inquisitr.com </div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<span lang="TH">และสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้</span>..<br />
<span lang="TH">ฉันไม่ได้เลือกหยิบหนังสือเล่มนี้มาเพื่อตัวเองเท่านั้น<br />
แต่ฉันเลือกมาเพราะรู้ว่า ตัวเองกำลังต้องการศรัทธาเป็นอย่างมาก<br />
ในการที่จะใช้ทั้งความรู้ และหัวใจ พูดคุยกับใครหลายต่อหลายคนที่เดินเข้ามาพบฉัน<br />
ผู้คนที่กำลังทดท้อ ทอดอาลัย รู้สึกสูญเสีย สูญสิ้น..หมดหวัง</span><br />
<span lang="TH">อย่างน้อย ฉันอยากทำให้เค้าได้รู้สึกว่าชีวิตเค้ามีคุณค่า
มีความหมายบางอย่าง</span><br />
<span lang="TH">มีคุณค่า มีความหมายกว่ารถ กว่าบ้าน
กว่าข้าวของมากมายที่สูญสลายหายไปกับน้ำในพริบตา</span><br />
<br />
<br />
<span lang="TH">“ถ้าถึงเวลาจริงๆ เวลาที่น้ำลด แล้วเราต้องเริ่มต้นกันใหม่</span><br />
<span lang="TH">เราอาจจะได้มานั่งทบทวน ว่าสิ่งไหนจำเป็นมากที่สุดที่จะทำให้เราอยู่ได้</span><br />
<span lang="TH">สิ่งไหนไม่จำเป็น หรือจำเป็นรองลงมา พวกตู้โชว์ที่ป้าย้ายไปไม่ทัน</span><br />
<span lang="TH">มันเทียบไม่ได้หรอกกับการที่ป้ายังมีชีวิตอยู่ตรงนี้
ลูกสาวป้ายังยืนอยู่ตรงนี้..ข้างๆป้า</span><br />
<b><span lang="TH">ถ้าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่
มันไม่มีอะไรสำคัญเท่ากับความแข็งแรงของเราทั้งร่างกายและจิตใจ</span></b><br />
<span lang="TH">รวมถึงการที่เราได้อยู่กับคนที่เรารัก..แค่นั้นล่ะป้า..แล้วคนเราจะเริ่มต้นใหม่ได้อีก</span><br />
<span lang="TH">เพราะงั้นเชื่อเถอะ ดูแลตัวเองดีๆก่อนนะป้านะ"</span><br />
<br />
<br />
<br />
<span lang="TH">แม้คำพูดอาจตะกุกตะกัก แต่ฉันถ่ายทอดความรู้สึก ความเชื่อ</span><br />
<span lang="TH">และศรัทธาต่อชีวิตอย่างสุดจิตสุดใจไปกับคำพูดนั้น</span><br />
<span lang="TH">และได้เห็นหน้าตาป้าที่คลายความหม่นหมองลง</span><br />
<span lang="TH">อาจจะด้วยว่ามีเพื่อนร่วมทุกข์
อาจจะด้วยว่าเริ่มรู้สึกถึงความหมายของความทุกข์</span><br />
<span lang="TH">อาจจะด้วยความรู้สึกดีที่ได้ตระหนักว่ายังมีลูกอยู่เคียงข้าง</span><br />
<span lang="TH">อาจจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกดีเหลือเกิน</span><br />
<span lang="TH">และเมื่อจะมองสบตากับลูกสาวป้าบ้าง ก็เห็นป้ายน้ำตาอยู่ป้อยๆอ่ะ </span>^^<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">มนุษย์ไม่ได้ถูกวางเงื่อนไขและลิขิตเอาไว้แล้วอย่างสมบูรณ์แบบ</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">ตรงกันข้าม
มนุษย์ลิขิตตัวเองว่าจะยอมแพ้แก่สถานการณ์ต่างๆ หรือจะยืนหยัดสู้กับมัน</span></b><br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";">กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ
ในที่สุดแล้วมนุษย์ก็คือผู้ลิขิตตัวเอง</span></b><br />
<br />
<br />
<b><span lang="TH" style="font-family: "Tahoma","sans-serif";"><span style="font-weight: normal;">และฉันเองก็เชื่อเช่นนั้น :) </span></span></b><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="MsoNormal">
<br /></div>
กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-52130739845179318952013-02-08T19:02:00.000+07:002013-03-01T06:05:43.785+07:00นกก้อนหิน<br />
<b>สำหรับคุณแล้ว..ความรักคืออะไรคะ ?</b><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjScmEHSUB0RJqbVUgHwybx6Kh0Wm7PD_-81NctclmSPOIpXyrTevHIYFrQNgxU1eP_P1i9mnvEL_hxByatLYx9aVflWwkhh1W0kUPThSlyp4HTTyXW5FFKXEj_97_J6PgwEVYFTr06TUY/s1600/images.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjScmEHSUB0RJqbVUgHwybx6Kh0Wm7PD_-81NctclmSPOIpXyrTevHIYFrQNgxU1eP_P1i9mnvEL_hxByatLYx9aVflWwkhh1W0kUPThSlyp4HTTyXW5FFKXEj_97_J6PgwEVYFTr06TUY/s400/images.jpg" height="400" width="274" /></a></div>
<br />
<br />
<br />
<br />
<b>สำหรับอังโตน</b> ชายหนุ่มผู้ถูกทิ้งไว้ข้างน้ำตกตั้งแต่ยังแบเบาะ<br />
ไม่เคยรู้จักพ่อแม่ตัวเอง ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่มีใครเลยนอกจากหลวงพ่อที่เก็บเข้ามาเลี้ยงไว้<br />
และเมื่อโตขึ้น ..แม้แต่หลวงพ่อก็จากเขาไป ชายหนุ่มผู้กล่าวลาแผ่นดินเกิด<br />
เดินทางข้ามฟ้าข้ามทะเลไปยังดินแดนที่ผู้คนพูดจาคนละภาษากัน<br />
เมื่อแรกเหยียบแผ่นดินนั้น ชายหนุ่มไม่สามารถสื่อสารกับใครได้แม้แต่คำเดียว<br />
<br />
<br />
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ณ ที่นั่น..เขามีความรัก<br />
<br />
<br />
<i>"..กับเยจิน ผมรักเธอในทันทีแรกเห็น นึกแปลกใจตัวเอง ทำไมไม่เจียม<br />ทำไมจึงปล่อยให้ตัวเองเดินเข้าไปหาความผิดหวัง จริงๆแล้วเธอเป็นใครผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำ<br />แล้วผมก็รู้ว่าไม่ใช่เพราะความไม่ประมาณตัว ผมไม่ได้เพรียกหาความเจ็บปวดผิดหวัง<br />ผมเพียงแต่พร้อมเผชิญมัน สิ่งนี้เองที่เรียกว่าความรัก</i><br />
<br />
<i>ความรักคือเยจิน<br />..เยจินคือความรัก</i> "<br />
<br />
<a name='more'></a><br /><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b>สำหรับผาฝน</b> นางแบบสาวเจ้าอารมณ์ เด็กสาวร้ายกาจ<br />
ที่หากทั้งชีวิตเธอจะยืนอยู่บนรองเท้าคู่งาม <br />
เหยียบย่างไปบนพรมแดงบนแคทวอล์คเหมือนเช่นที่เคยเป็นมาตลอด<br />
ก็ยังไม่รู้เลยว่า เมื่อไหร่ที่เธอจะได้รู้จักกับความรัก<br />
<br />
<i>"ฟ้า เราเป็นแฟนกัน เรารู้จักกัน แต่ไม่รู้จักความรักหรอก"</i><br />
<br />
แต่เมื่อถึงวันหนึ่ง ด้วยวิถีทางที่ไม่อาจล่วงรู้<br />
ความรักเดินทางมาสู่หัวใจดวงที่เป็นดั่งหินผา<br />
ทำให้คนที่เคยมืดมิดในความสว่าง ได้พบแสงสว่างในความมืด<br />
<br />
<i>"..ผาอยากให้คุณทำเหมือนอย่างที่ทำทุกวัน<br />เวลาที่คุณพูด ผารู้สึกเหมือนมีคนร้องเพลงกล่อม รู้สึกเหมือนว่าได้หลับไปพร้อมนิทานก่อนอน<br />นิทานที่ขับไล่ฝันร้ายให้หายไป คุณร้องเพลงของคุณ แต่ผาได้ยินเพลงของผา<br />คุณเล่านิทานของคุณ แต่ผาฟังนิทานของผา สำหรับผาแล้ว โลกยังคงมีเสียงเสมอ<br />ไม่ว่าเราได้ยินหรือไม่ก็ตาม.."</i><br />
<br />
และฉันก็คิดว่าความรักยังคงอยู่กับผาฝนเสมอ แม้ว่าคนที่เธอรักจะอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม :)<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<b>สำหรับพร่างฟ้า</b> นักขับตีนผี ลูกคนมีเงิน <br />
ที่รู้จักการแสดงความรักเพียงวิธีเดียว คือการให้ของมีค่า<br />
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ พร่างฟ้าจะได้รู้จักความรัก แต่ก็หวังว่าคงจะมี..สักวัน<br />
<br />
<i>...กรูน่ะหรือไม่รู้จักความรัก..พร่างฟ้าคิดอย่างแค้นเคือง แต่ผาฝนไม่ยอมพูดอะไรกับเขาอีก<br />ทั้งไม่ยอมเจอหน้าด้วย พร่างฟ้าจึงต้องลงทุนซื้อจักรยาน</i><br />
<i>..ไม่แน่ว่ามันเป็นเทรนด์ใหม่ของความรัก ในวันที่ทุกคนก็พร่ำพูดกันแต่เรื่องโลกร้อน<br />เทรนด์แบบนี้ผาฝนทันสมัยกว่าเขา พร่างฟ้าต้องยอมรับ</i><br />
<br />
^^"<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
และ..<b>สำหรับเยจิน</b>เยจินผู้สวยงาม ยิ้มใส ตาใส เยจินผู้อัธยาศัยนิ่มนวลและอ่อนโยนคนนั้น<br />
<br />
<br />
<i>"..คนดีของฉัน คำสัญญาไม่ใช่พันธนาการ</i><br />
<i>เธอต้องเชื่อสิว่าตัวเธอเป็นอิสระ ปลดปล่อยตัวเองจากคำสัญญาที่เคยให้แก่กันเถอะ<br />ในวันหน้า ถ้าเธอจะกลับมาหาฉันก็เพราะอยากจะกลับมา ไม่ใช่ต้องกลับมาเพราะคำสัญญา<br />ถ้าเธอพบว่าสามารถรักใครบางคนได้มากกว่าฉัน เธอจงรักเขาและเลือกอยู่กับเขา<br />ฉันจะเป็นสุขไปกับความรักของเธอ"</i><br />
<br />
ความรักของเยจินทั้งหนักแน่นและเป็นอิสระในขณะเดียวกัน<br />
ถ้าคำว่า"นกก้อนหิน"ในชื่อเรื่องนี้จะทำให้ฉันคิดถึงอะไรสักอย่าง<br />
ฉันก็คงนึกถึงความรักของเยจินนั่นล่ะ<br />
<br />
<i>"ฉันคิดตลอดว่านกตัวนี้คือเธอ ฉันอยากเห็นเธอโบกบินไปในโลกกว้าง<br />อย่าให้เวลาสี่ปีข้างหน้าไร้ความหมายเหมือนหลายเดือนที่ผ่านมานะคะ<br />คนรักของฉันต้องเติบโตขึ้น เปิดหัวใจมากขึ้น เฝ้าดูหัวใจตัวเอง<br />ถ้าหัวใจเธอรักใคร จงบินไปหามัน"</i><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
จังหวะของตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้ อ่อนโยน เนิบช้า ทว่าอบอุ่น<br />
แตะตรงหัวใจเราแผ่วๆ เหมือนลมหายใจของคนรักที่ผ่าวปะทะแผ่นหลัง<br />
ยามที่ใครสักคนหนึ่งกำลังขี่จักรยาน และมีคนรักซ้อนท้าย<br />
<br />
ลมหายใจหอมหอม อบอุ่น และเต็มไปด้วยไอรัก ..<br />
<br />
ด้วยจังหวะจะโคนแบบนั้น ด้วยเนื้อหาเรื่องราวในหัวใจของผู้คนที่ต่างเชื้อชาติ ต่างที่มา ต่างนิสัย<br />
ด้วยถ้อยคำงดงาม ความรู้สึกอ่อนหวาน แต่ก็เรียบง่าย<br />
สำหรับฉันแล้วหนังสือเล่มนี้ จึงเป็นหนังสือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก<br />
<br />
เมื่ออ่านจบลงแล้วรู้สึกเหมือนบางอย่างได้รับคำตอบ และในขณะเดียวกันก็เกิดคำถาม<br />
<br />
<br />
<br />
สำหรับคุณแล้ว..ความรักคืออะไร ?กล้วยม้วน เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/10812915318397812247noreply@blogger.comtag:blogger.com,1999:blog-3824110686500336530.post-33760092754055359912013-02-08T17:12:00.000+07:002013-03-01T06:06:15.434+07:00แอนนิมอล ฟาร์ม สงครามกบฏของสรรพสัตว์<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiglzAO4KAyPtqlhCBLrnLeQu6-RJssJ35186nqMWM73eArRJCATTL0q7JCbpp-CWCMxRWuv8knKSeTSoBW4tPKW79R772gxu5zl-RIw9uuMo9HCVw5S2vQywNHHdl7A1NJa28UbvZgHQ4D/s1600/animal+farm.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiglzAO4KAyPtqlhCBLrnLeQu6-RJssJ35186nqMWM73eArRJCATTL0q7JCbpp-CWCMxRWuv8knKSeTSoBW4tPKW79R772gxu5zl-RIw9uuMo9HCVw5S2vQywNHHdl7A1NJa28UbvZgHQ4D/s320/animal+farm.jpg" height="320" width="212" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
ผู้แต่ง: George Orwell</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
ผู้แปล: บัญชาสุวรรณานนท์</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
แม้จะเดาเรื่องได้ตั้งแต่อ่านบทแรกๆ แต่จอร์จ ออร์เวลล์ คงไม่ได้ตั้งใจให้คนอ่านประหลาดใจอยู่แล้ว... ก็สังคมจะเดินไปสู่หนใดได้อีกเล่า เมื่ออำนาจตกอยู่ในกำมือของคนเพียงคนเดียว (จริงๆคือกำกีบของหมูเพียงตัวเดียว) อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด</div>
<div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
หนังสือเล่มเล็กๆระดับลุยอ่านวันเดียวจบ เล่าเรื่อง Surreal ของฟาร์มแห่งหนึ่ง ที่วันดีคืนดี "ท่านผู้พัน" หมูพ่อพันธุ์วัยใกล้ฝั่งได้ครุ่นคิดจนตกผลึก เกิดพุทธิปัญญา เล็งเห็นว่าที่ผ่านมาเหล่าสรรพสัตว์ในฟาร์มต่างถูกเอาเปรียบแรงงานจากคน- สัตว์โลกชนิดเดียวที่บริโภคโดยไม่ผลิต มาโดยตลอดและอย่างแสนสาหัส เขาจึงเผยแพร่แนวคิดที่ค้นพบใหม่นี้ไปสู่ผองเพื่อนในฟาร์ม...และแล้วคืนนั้น อาการ "ตาสว่าง" ก็เกิดขึ้นทุกทั่วตัวตน</div>
<div style="text-align: justify;">
<br />
<a name='more'></a><br /></div>
<div style="text-align: justify;">
แม้ท่านผู้พันจะตายลงไม่นานหลังจากนั้น แต่ยังมีหมู 3 ตัว สืบทอดเจตนารมย์ นำแนวคิดนี้ไปพัฒนาต่อ จนกลายเป็นระบบความคิดที่สมบูรณ์ มีแผนรองรับทุกขั้นตอน ตั้งแต่วิธีก่อกบฏ และสิ่งที่ต้องทำต่อจากนั้น เพื่อให้ระบบ "สัตว์นิยม" ดำรงอยู่สืบไปอย่างยั่งยืน...และเมื่อวันร้ายคืนร้ายมาถึง มิสเตอร์โจนส์เจ้าของฟาร์มก็โดนสัตว์ก่อกบฏ ขับไล่เขาออกไปและยึดครองฟาร์มได้ในที่สุด<br />
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuUk5fuICyT-HK1ZGmkhsj1yn0SSWju9ZwhJOsJis74pwR3qdNLhTXUJrJRDtiGHYxkFglzLOPnYdvgCmeYECsbD1mQOxeddY0kNQYOzGkhqhLDMN8yQtqrV8FVoHjO8vZ5bmwFHWV16P7/s1600/animal+farm3.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhuUk5fuICyT-HK1ZGmkhsj1yn0SSWju9ZwhJOsJis74pwR3qdNLhTXUJrJRDtiGHYxkFglzLOPnYdvgCmeYECsbD1mQOxeddY0kNQYOzGkhqhLDMN8yQtqrV8FVoHjO8vZ5bmwFHWV16P7/s1600/animal+farm3.jpg" height="320" width="229" /></a></div>
<div style="text-align: center;">
<a href="http://keebs.com/personal-work/new-animal-farm-poster-design/" target="_blank">Cr: keebs.com</a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>
<div style="text-align: center;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
เรื่องที่เริ่มด้วยความหอมหวานของ "เสมอภาค-ภราดรภาพ" แปรเปลี่ยนไปเป็นโศกนาฏกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งความล้มเหลวจากความด้อยประสบการณ์ การถูกใส่ร้าย ความตาย จนเมื่อถึงบทสุดท้ายผู้อ่านจะทั้งเศร้าและขนลุกเมื่อจินตนาการตามคำบรรยายเลยทีเดียว</div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
</div>
<div>
<div style="text-align: justify;">
หนังสือเล่มนี้ได้รับการยกย่องอย่างแพร่หลาย Time จัดให้เป็น<a href="http://entertainment.time.com/2005/10/16/all-time-100-novels/slide/all/" target="_blank">นิยายภาษาอังกฤษ 1 ใน 100 เรื่องที่ดีที่สุด</a>นับตั้งแต่ปีที่ก่อตั้งนิตยสารจนถึงปัจจุบัน ส่วน Modern Library จัดให้เป็น<a href="http://www.modernlibrary.com/top-100/100-best-novels/" target="_blank">นิยาย 1 ใน 100 เรื่องที่ดีที่สุดของศตวรรษที่ 20</a> ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะฉายภาพให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเป็นไปของ "สังคมนิยม" (แม้ว่าจะไม่ได้ระบุอย่างชัดแจ้ง แต่สัญลักษณ์เขาสัตว์และกีบเท้าบนธง ก็ทำให้ไม่สามารถนึกเป็นอื่นได้) ตั้งแต่เริ่มปฏิวัติจนถึงสงบราบคาบ ที่ผู้นำ ซึ่งควรจะนำคำสอนอันกลั่นกรองมาดีแล้วมาปฏิบัติอย่างรู้ค่า กลับทำลายมันลงสิ้นจากความเย้ายวนแห่งอำนาจ ภาพฉายนี้อาจจริงหรือไม่ก็ได้ แต่ฝรั่งที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับสตาลินคงอยากเชื่อเช่นนั้น</div>
</div>
<div>
<div style="text-align: justify;">
<br /></div>
<div style="text-align: justify;">
ส่วนที่เราชอบของเรื่อง คือการเสียดสีสภาวะต่างๆของคน ที่ออร์เวลฉายมันผ่านสัตว์หลากชนิดอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ที่โดนใจที่สุดคือ ภาวะ "เชื่อง่าย-ลืมง่าย" ของสัตว์ใต้ปกครอง มองจากสายตาคนนอกแล้วมันช่างขื่น-ขัน เหลือประมาณ แต่เรื่องตลกร้ายนี้ต่างหาก ที่ถ้าพินิจให้ดีแล้วจะพบว่า เป็นเนื้อแท้แห่งปัญหาเสียยิ่งกว่าเรื่องของผู้นำและอำนาจ เป็นมาแต่ไหนแต่ไร โดยไม่เกี่ยงขั้ว ไม่เกี่ยงว่าอยู่ในรัฐสังคมนิยมหรือรัฐไพร่ฟ้าหน้าใส</div>
</div>
<div>
<br /></div>
<div>
<div>
คะแนน 3/5</div>
<div style="text-align: center;">
<span style="color: #38761d;"><b><br /></b></span></div>
</div>
<div style="text-align: center;">
<iframe allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/6peo16naLok" width="420"></iframe><br />
<br />
<br /></div>
กล้วยไข่ เรื่องวิ่งเรื่องกล้วยhttp://www.blogger.com/profile/17065376333172617761noreply@blogger.com